ทั้งนี้คงต้องขอร้องสื่อมวลชนอย่าเสนอข้อมูลที่ไปในทางสร้างความเสียหายในสายตาของต่างประเทศ เพราะวันนี้ถือว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงและทำความเข้าใจได้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น และรัฐบาลพยายามดูแลไม่ให้ขยายผลไปพื้นที่อื่น
ด้านนายอนุสิษฐ์ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือถึงการพูดคุยสันติสุขกับทางมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางมาเลเซีย ขณะที่ทางมาเลเซียกำลังรวบรวมว่ามีกลุ่มใดบ้างที่จะต้องมีการพูดคุยและต้องเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพเพื่อให้การพูดคุยนั้นได้คำตอบ
ขณะเดียวกันทาง สมช.ไทยจะต้องไปพูดคุยกับ สมช.ของมาเลเซีย เพื่อประสานงานกันในระดับนโยบาย ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของการพูดคุยสันติสุขแล้วก็จะต้องประสานงานในเรื่องปัญหาชายแดนและปัญหาการใช้รถยนต์ข้ามแดนด้วย
ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่จังหวัดยะลาวานนี้จะเชื่อมโยงกับกลุ่มที่จะมีการพูดคุยสันติสุขหรือไม่ เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า ยังไม่ขอคาดเดาว่าเป็นกลุ่มใด และจากการดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็ยังเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งการวางระเบิดครั้งนี้เป็นแบบไปป์บอม เป็นการวางระเบิดจุดเล็กๆ เพื่อก่อกวนทำ ให้การข่าวและการเฝ้าระวังเป็นไปอย่างลำบาก และขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการวางมาตรการต่างๆเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงจะต้องมีการพิจารณาถึงเรื่องการใช้หมวกกันน็อคที่ปกปิดใบหน้าทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้ชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการพิจารณาปรับปรุงต่อไป
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ทำให้องค์กรระหว่างประเทศกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ในความจริงแล้วประชาชนถูกผู้ก่อเหตุละเมิดสิทธิ์ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องปกป้องดูแล