สธ.สั่งเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อ"เมอร์ส-โควี" แม้ยังไม่พบผู้ป่วยในไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday June 2, 2015 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือเมอร์ส-โควีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และมีประวัติเดินทางมาจากประเทศตะวันออกกลาง โดยองค์การอนามัยโลกพบผู้ป่วย 29 ราย เสียชีวิต 4 รายใน 5 ประเทศ ส่วนไทยผลการเฝ้าระวังรอบ 3 ปียังไม่พบผู้ป่วยโรคนี้

"กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังโรคเมอร์ส-โควี หลังจากเริ่มมีรายงานพบผู้ป่วยในแถบตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยก็ตาม" นพ.สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย รักษาราชการแทนปลัด สธ.กล่าว

โดยขณะนี้ยังคงมาตรการอย่างต่อเนื่อง 3 เรื่อง คือ 1.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วย เน้นกลุ่มที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ไอ ถ่ายเหลว อาเจียน และมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลาง หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่พบผู้ป่วย หากพบผู้ป่วยที่มีอาการที่กล่าวมา ขอให้จัดไว้อยู่ในข่ายสงสัย และปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาลในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับโรคซาร์ส

2.ให้กรมควบคุมโรควางแผนการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2558 จำนวน 10,400 คน ซึ่งจะเริ่มเดินทางช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2558 ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสุขภาพเตรียมความพร้อมสุขภาพก่อนเดินทาง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียกำหนด คือวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นทุกคน จัดระบบติดตามเฝ้าระวังสุขภาพหลังเดินทางกลับ และ 3. จัดทำคำแนะนำในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงด้วย

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน มีอาการรุนแรงคล้ายโรคซาร์ส เชื้อจะลุกลามเข้าปอดอย่างรวดเร็ว ติดต่อกันจากการไอจาม องค์การอนามัยโลกรายงานสถานการณ์โรคในปี 2558 ในเดือนพฤษภาคม มีผู้ป่วย 29 ราย เสียชีวิต 4 ราย ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรต กาตาร์ อิหร่าน และเกาหลีใต้ โดยผู้ป่วย 3 รายล่าสุดพบที่ประเทศเกาหลีใต้ รวมยอดสะสมตั้งแต่พ.ศ.2555 เป็นต้นมา ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2558 พบผู้ป่วยยืนยันรวม 1,139 ราย ใน 24 ประเทศ เสียชีวิต 431 ราย และขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีข้อห้ามในการเดินทางไปยังประเทศที่พบผู้ป่วย

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ส่วนการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส 2012 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ยังคงเป็นการระบาดเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายแรกคนเดียวกัน และทางการของประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งต้นทางคือเกาหลีใต้ และประเทศจีนที่พบผู้เดินทางเป็นผู้สัมผัสโรค ได้มีมาตรการเข้มงวดโดยการกักกันผู้สัมผัสโรค ดังนั้นโอกาสที่จะมาสู่ประเทศไทยจากกรณีเกาหลีใต้ดังกล่าวยังมีน้อย แต่ไทยยังคงมีความเสี่ยงจากผู้เดินทางไปมาระหว่างประเทศที่มีการระบาด ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนที่มีแผนการเดินทางไปประเทศตะวันออกกลาง ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หลังสัมผัสสิ่งสาธารณะต่างๆ เช่นปุ่มลิฟท์ ราวบันไดเลื่อน ลูกบิดประตู และหลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งอูฐ และให้หลีกเลี่ยงดื่มนมอูฐดิบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ