กรมชลฯ ขอให้เกษตรกรชะลอปลูกข้าวนาปีไปปลายก.ค. เหตุน้ำในเขื่อนมีน้อย

ข่าวทั่วไป Tuesday June 9, 2015 18:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศกรมชลประทาน ระบุว่า ขอให้เกษตรกรชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปีในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและผู้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากสถานการณ์ฝนปีนี้มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าเกณฑ์ที่ประเมินไว้ และจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา สรุปว่าเดือนพ.ค.ปริมาณฝนในภาคเหนือและภาคกลางต่ำกว่าค่าปกติ 98.6 มม. (55%) และ 119.1 มม. (69%) ตามลำดับ และต่ำกว่าปี 57 (59 มม. (43%) และ 44 มม. (45%) ตามลำดับ) ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนในเกณฑ์น้อย และต้องระบายน้ำจากเขื่อนจำนวนมากกว่าแผนที่วางไว้เพื่อเสริมน้ำฝนที่น้อยกว่าปกติ ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน (9 มิ.ย.) ปริมาตรน้ำใช้การได้ เขื่อนภูมิพล 457 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 831 ล้านลบ.ม. รวมทั้ง 2 เขื่อน จำนวน 1,288 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 7% ของความจุน้ำใช้การได้ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 95 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 11% ของความจุน้ำใช้การได้ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 97 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 10% ของความจุน้ำใช้การได้

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะหืแนวโน้มสถานการณ์น้ำ มีมติเห็นชอบให้ระบายน้ำจากเขื่อนทั้ง 4 แห่ง ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. อัตรารวมเฉลี่ยวันละ 30-35 ล้านลบ.ม. สามารถสนับสนุนเพียงพอเฉพาะเพื่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์และอื่นๆ รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีที่ได้เพาะปลูกแล้ว จำนวน 2.84 ล้านไร่เท่านั้น

จากสภาวะดังกล่าว กรมชลประทานจึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ยังไม่ได้เพาะปลูกข้าวนาปีชะลอการเพาะปลูกไปก่อนจนกว่าจะเริ่มมีฝนตกชุกหรือมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกประมาณปลายเดือนก.ค. และขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อป้องกันการเกิดการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ