"ให้ทุกฝ่ายและทุกเขตเตรียมความพร้อมระดับสูง ไม่เฉพาะช่วงที่มีการพยากรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุฝนตก ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กทม.ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำชับและเฝ้าระวังสถานการณ์โดยตลอด ทั้งนี้จากเหตุการณ์ฝนตกเมื่อเช้ามืดของวันนี้(13 มิ.ย.) พบว่าบนถนนนสายหลักสามารถแก้ปัญหาและระบายน้ำได้ดี โดยขณะนี้การคาดการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์เป็นวันอาทิตย์ถึงวันพุธค่าเฉลี่ย 60% ของพื้นที่ อีกทั้งได้ย้ำเรื่องการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจและทหารในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ กทม.และสำนักงานเขตจะต้องเป็นหลักในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเนื่องจากมีความคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่และจุดที่มีปัญหาต่างๆ เพื่อระดมกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า นอกจากแก้ไขปัญหาในถนนสายหลักเรียบร้อยแล้ว ต้องไม่ลืมตรอก ซอย และหมู่บ้านเก่าแก่ที่ปลูกสร้างมานานซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำมาก ต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือไม่ให้ประชาชนได้รับความยากลำบาก ตลอดจนหากได้รับแจ้งเหตุอื่นๆ เช่น ต้นไม้ล้ม ป้ายล้ม ต้องเร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขด้วย ที่สำคัญคือการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของข้อมูลและผู้ปฏิบัติ
ส่วนการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ฝนและการแก้ไขปัญหาของผู้บริหารเขตนั้นให้พิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งตนเองได้ย้ำจุดมุ่งหมายของการบริหารจัดการคือ ขอให้ทุกฝ่ายรู้สถานการณ์ รู้วิธีการแก้ไข สั่งการได้ตลอดเวลา และติดต่อกันได้ตลอดเวลา
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ปลัด กทม. กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมดำเนินการทุกสิ่งที่มีทั้งหมดบนข้อจำกัดที่มีทั้งหมดเช่นเดียวกันเต็มที่ 100% ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา โดยพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อนก็เสริมกำลังเพื่อเร่งแก้ไข เช่น บริเวณถนนอโศกมนตรี ได้เพิ่มขนาดเครื่องสูบน้ำให้ใหญ่ขึ้นพร้อมทั้งติดตั้งเครื่องปั่นไฟช่วยเพิ่มกำลังไฟในการเดินเครื่อง เพื่อให้การระบายน้ำเร็วขึ้น โดยขณะนี้พบว่าสถิติค่าเฉลี่ยฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ มากกว่าค่าเฉลี่ยตลอดปีทั้งปีแล้ว
ขณะที่นายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวด้วยว่า ในส่วนของพื้นที่เอกชนซึ่งไม่ยกให้เป็นสาธารณะนั้น กทม.ใช้วิธีการระบายน้ำโดยการสูบน้ำจากท่อระบายน้ำบริเวณปากซอยซึ่งเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นๆ เพื่อช่วยดึงน้ำออกจากพื้นที่ นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ซึ่งมีที่ว่างก็อนุญาตให้ กทม.ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นบึงรับน้ำแก้มลิงก่อนจะสูบระบายภายหลังจากฝนหยุดตกต่อไป