ล่าสุด กปภ.ได้ตรวจสอบสถานการณ์น้ำต้นทุนทั่วประเทศ พบว่า ขณะนี้ กปภ.ทั้ง 234 สาขายังคงสามารถจ่ายน้ำให้กับประชาชนได้ โดยมี กปภ. 4 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขาบางปะกง สาขาบางคล้า สาขาฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา และสาขาปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับผลกระทบต่อเนื่องทำให้น้ำเค็ม
ส่วน กปภ. 10 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขาจันทบุรี จ.จันทบุรี สาขาปักธงชัย สาขาพิมาย จ.นครราชสีมา สาขาเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี สาขากระนวน จ.ขอนแก่น สาขาแก้งคร้อ สาขาหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ สาขาอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ สาขาท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และสาขาวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จำเป็นต้องจ่ายน้ำประปาเป็นช่วงเวลาหลังยื้อมานาน
ขณะนี้ กปภ. ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้รายงานสถานการณ์แบบ Real Time โดยให้รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 1 – 5) เป็นผู้ติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ไขปัญหาทันที นอกจากนี้ยังกำหนดมาตรการเข้มข้นให้ กปภ.สาขาที่ประสบปัญหาไม่รุนแรง ต้องให้ความช่วยเหลือจ่ายน้ำประปาฟรีให้แก่รถบรรทุกน้ำของส่วนราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อรับน้ำประปาไปแจกจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ หน่วยงานที่จะมาขอรับน้ำต้องมีหนังสือแจ้งพร้อมระบุหมายเลขทะเบียนรถที่มาบรรทุกน้ำด้วย เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสนำน้ำประปาไปจำหน่าย ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน สำหรับ กปภ.สาขาที่ไม่มีน้ำดิบเหลือเพียงพอสำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายแก่ประชาชน ให้ใช้รถบรรทุกน้ำไปรับน้ำประปาจาก กปภ.สาขาใกล้เคียงเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นางรัตนา กล่าวเพิ่มเติมว่าสถานการณ์แล้งปีนี้ แม้ว่า กปภ.ได้มีมาตรการเข้มข้นรองรับอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจวางใจได้ จำเป็นต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งเป็นกรณีพิเศษโดยมีระบบรายงานศูนย์ติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เพื่อบูรณาการการบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และเป็นการยืดระยะเวลาการจ่ายน้ำในช่วงฤดูแล้งให้ยาวนานยิ่งขึ้น สิ่งที่ กปภ.ใคร่ขอร้องอย่างจริงจัง คือ ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดจริง ๆ รวมทั้งตรวจสอบระบบท่อประปาภายในบ้านมิให้มีน้ำรั่วไหลเพราะน้ำทุกลิตรมีค่ามากในยามนี้ ทั้งนี้ หากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคหรือพบเห็นท่อประปาแตกรั่ว น้ำประปา ไม่ไหลหรือไหลอ่อน กรุณาแจ้งที่ PWA Call Center โทร. 1662 หรือ กปภ.สาขาในพื้นที่