สำหรับการประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้ เป็นความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามลงพื้นที่ต่างๆเพื่อพบปะ และรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งยังเป็นการติดตามความคืบหน้าในโครงการต่างๆของรัฐบาล ว่าเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดและเร่งรัดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาติดขัดก็จะได้หาวิธีการแก้ไข นอกจากนี้การประชุม ครม.นอกสถานยังส่งผลให้จังหวัดนั้นๆมีบรรยากาศที่ดี เป็นที่สนใจ และมีผลต่อการท่องเที่ยวด้วย
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะหาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพราะถือเป็นปัญหาสำคัญ เรื่องนี้อยู่ในความเป็นห่วงของนายกฯอย่างมากและได้สั่งการในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุม ทั้งการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลักให้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการอุปโภค บริโภค การเกษตร และน้ำสำหรับรักษาระบบนิเวศน์ ซึ่งคาดการว่าฝนน่าจะตกในช่วงเดือนสิงหาคม เกษตรกรโดยเฉพาะชาวก็สามารถเริ่มปลูกข้าวได้ในช่วงนั้น นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายกฯ ยังได้ส่งการให้อธิบดีกรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยา เร่งประสานงานพร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างครอบคลุม
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะนั้น ไม่ได้มีการเตรียมการหรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ รัฐบาลมั่นใจว่าการลงพื้นที่นั้น เป็นการลงไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งเป็นประโยชน์จึงมีความมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจถึงปัญหาและรัฐบาลกำหนดดำเนินการแก้ไขอย่างไร
"เราไม่ได้มองว่าเชียงใหม่เป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดงหรือสีอะไร ถ้าจะมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง รายสองราย หรือจำนวนหนึ่งก็เป็นสิ่งที่สังคมต้องพิจารณาเอา เพราะวันนี้ประเทศไทยต้องอธิบายด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงจะเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งแล้วบอกว่าต่อต้านการทำรัฐประหาร มันไม่ใช่เวลา" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
สำหรับการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งออกมาต่อต้านรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้สังคมมีสติ วันนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ต้องรับฟังข้อเท็จจริงและเหตุผล ดังนั้นทุกฝ่ายต้องบริโภคข้อมูลข่าวสารและคิดทุกเรื่องอย่างมีสติจึงจะสามารถผ่านวิกฤตเหล่านี้ไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่อยากให้ทุกคนมองเพียงเรื่องเสรีภาพ หรือสิ่งที่เราจะได้รับจากสังคม โดยทุกคนควรมองสิ่งที่จะปฏิบัติหรือให้กับสังคมด้วย ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขและร่มเย็น
"นายกฯเน้นเสนอถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ โดยต้องสร้างให้สังคมเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่หวาดระแวง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเองไม่ใช่คิดแต่เสรีภาพกับสิ่งที่เราจะได้จากสังคม สังคมเราคิดแบบนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะมีส่วนน้อยที่ยังไม่ได้ตระหนัก" พล.ต.สรรเสริญ