นอกจากนี้ ทราบว่า ผู้ที่เฝ้าระวังการติดเชื้ออีก 16 คน ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขจะครบกำหนดเฝ้าระวัง 14 วันในวันนี้ หากไม่แสดงอาการติดเชื้อ ก็จะถือว่าปลอดภัย และขณะนี้ไม่พบมีการแพร่ระบาดของโรคในประเทศ จึงถือว่าประเทศไทยปลอดภัย ไม่เป็นเขตการติดเชื้อจากการติดโรคเมอร์ส
"รัฐบาลขอขอบคุณทีมงานสาธารณสุขทุกท่าน โดยเฉพาะ รพ. บำราศนราดูร ที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด จน ผู้ติดเชื้อ ซึ่งเข้ารักษาตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน หายเป็นปกติสามารถ ส่งกลับได้พร้อมญาติอีก 3" รองโฆษกฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์ส จำนวน 1 ราย เป็นชายชาวโอมาน อายุ 75 ปี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 และมีผู้สัมผัสโรคจำนวน 176 คนซึ่งพ้นจากระยะเฝ้าระวังโรค 14 วันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนอาการปกติ ผลตรวจเสมหะจากลำคอ ไม่พบเชื้อไวรัสโรคเมอร์ส
ในส่วนผู้ป่วยโรคเมอร์ส ได้รับการดูแลรักษาในห้องแยกโรคความดันลบ ที่สถาบันบำราศนราดูร จนเสร็จสิ้นกระบวนการตามมาตรฐานแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและด้านการชันสูตร ได้พิจารณาว่าพ้นจากการเป็นผู้ป่วยโรคเมอร์สแล้ว โดยผู้ป่วยรายนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีไข้มาเป็นเวลา 15 วัน หายใจได้โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนช่วยมา 5 วัน ผลเอกซเรย์ปอดดีขึ้นมาก เดินได้เอง การตรวจเชื้อเมอร์สในลำคอให้ผลเป็นลบมา 5 ครั้ง โดยตรวจครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558
ส่วนญาติผู้ป่วยทั้ง 3 คน อาการปกติ ผลตรวจเชื้อเมอร์สในลำคอเป็นลบ โดยเก็บตัวอย่างครั้งสุดท้ายวันที่ 1กรกฎาคม 2558 ตรวจได้ผลเป็นลบเช่นกัน สำหรับโรคประจำตัวมี่ผู้ป่วยมีอยู่แต่เดิม จะแนะนำให้ตรวจรักษาต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ป่วยว่าจะเลือกรักษาเมื่อใด หรือรักษาที่ใด
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ทั้งนี้ ประเทศไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ยังมีความเสี่ยงที่จะพบโรคเมอร์ส รวมทั้งโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้เสมอ จากการที่มีผู้เดินทางเข้า-ออกจากประเทศ ทั้งไปและกลับจากพื้นที่ติดโรค รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ (Medical hub) ซึ่งจะมีผู้ป่วยโรคต่างๆ เข้ามารักษาในโรงพยาบาลของไทย จึงต้องมีการเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น โดยตรวจคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรค ที่ช่องทางเข้าออกประเทศ ในโรงพยาบาล และในชุมชน ต้องยกระดับมาตรการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล ทั้งในภาครัฐและเอกชน กระทรวงสาธารณสุขให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดตรวจเยี่ยมติดตามโรงพยาบาลและคลินิกเอกชน ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ด้านนพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ว่าในประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโรคเมอร์ส แต่ กระทรวงสาธารณสุขยังต้องคงมาตรการป้องกันโรคอย่างเต็มที่ โดยติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเมอร์ส ตามมาตรฐาน และตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกมากว่า 3 ปีตั้งแต่มีรายงานโรคครั้งแรกในตะวันออกกลาง และมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นระยะ