กรมควบคุมโรค เผยแนวโน้มไข้เลือดออกระบาดรุนแรง คาดปีนี้มีผู้ป่วยเพิ่มเกือบ 2 เท่าจากปีก่อน

ข่าวทั่วไป Tuesday July 14, 2015 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์โรคไข้เลือดในปีนี้มีแนวโน้มรุนแรง แค่ต้นปีอัตราป่วยสูงกว่าปีที่แล้ว โดยขอให้ประชาชนช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วัน เพื่อป้องกันเองและคนที่รักให้ปลอดภัยจากไข้เลือดออก

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558 พบจำนวนผู้ป่วยสะสม 28,577 ราย เสียชีวิต 21 ราย อัตราป่วยต่อแสนประชากรคิดเป็น43.88 ราย ขณะที่ภาคกลางพบอัตราป่วยสะสมมากที่สุดรวม 14,675 ราย และเสียชีวิต 12 ราย อายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนถึงร้อยละ 45.7จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับ คือ ระยอง ตราด อ่างทอง เพชรบุรี และกระบี่

"เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ฝนที่ตกเป็นช่วงๆ จะยิ่งเป็นการเติมน้ำในแอ่งน้ำหรือทำให้มีน้ำขังอยู่ตามเศษวัสดุ ภาชนะต่างๆ จานรองกระถางต้นไม้ที่อาจมีไข่ยุงลายสะสมอยู่น้ำฝนที่มาเติมลงในภาชนะจะท่วมถึงไข่ยุงและแตกตัวเป็นลูกน้ำ และเป็นยุงลายตัวเต็มวัยโดยจะใช้เวลาทั้งหมด 7-10 วันก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มปริมาณยุงลายให้มีมากขึ้น" นพ.โสภณ กล่าว

โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา และคาดว่าช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะมีผู้ป่วยมากสุดประมาณเดือนละ10,000–13,000 รายหากไม่ร่วมมือกันควบคุมอย่างเข้มแข็งปีนี้อาจจะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก 60,000–70,000 ราย จากเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมามีผู้ป่วย 40,999 ราย

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวา การควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกให้ได้ผลจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน อาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐฯ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำในชุมชน ครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วัน ร่วมกันทำกิจกรรม BIG CLEANING DAY “เก็บให้เกลี้ยงไม่เลี้ยงยุงลาย" ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาดปลอดโปร่งโล่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก 2.เก็บน้ำให้สนิทมิดชิดไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ และ 3.เก็บขยะเศษภาชนะรอบๆบ้านและชุมชนที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเน้นในพื้นที่ 6 ร. คือ 1.โรงเรือน(บ้าน/ชุมชน) 2.โรงเรียน(สถานศึกษา/สถานเลี้ยงเด็กเล็ก) 3.โรงพยาบาล 4.โรงแรม/รีสอร์ท 5.โรงงาน/กลุ่มอุตสาหกรรม และ 6.โรงธรรม (วัด/มัสยิด/โบสถ์)

สำหรับโรคไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะ สามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง อาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง มักจะไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสไข้เลือดออกเป็นการรักษาตามอาการ การป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงลายกัดและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จึงถือว่าเป็นการป้องกันไข้เลือดออกที่ได้ผลดีที่สุดหากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ