"ท่านนายกฯ มองว่า นอกจากการมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ให้สิทธิประโยชน์มากเป็นพิเศษแล้ว ยังมีปัจจัยด้านมั่นคงที่ผู้ประกอบการจะคำนึงร่วมด้วย จึงสั่งการให้หน่วยในพื้นที่พิจารณาจัดหาพื้นที่ราชพัสดุ หรือพื้นที่ใกล้เขตหรือหน่วยทหาร เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ประกอบการอีกชั้นหนึ่ง นอกเหนือจากการวางกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง โดยท่านนายกฯ คาดหวังว่าการขยายการลงทุนในพื้นที่จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่พี่น้องประชาชนในท้องถิ่น และเพิ่มขนาดเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ ซึ่งประโยชน์ส่วนใหญ่จะตกอยู่แก่ท้องถิ่นโดยมีรัฐคอยสนับสนุน" รองโฆษกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ที่เข้าไปลงทุนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย)
จากเดิมกำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ให้เปลี่ยนเป็นมีเงินขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท และอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท มาใช้ในโครงการได้ รวมถึงอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในทุกพื้นที่ และได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด คือ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบ และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี และลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เพิ่มเติมอีก 5 ปี