ในวันนี้หน่วยงานต่างๆ ได้รายงานสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและการให้ความช่วยเหลือ พบว่า มีประชาชนที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง จำนวนทั้งสิ้น 362 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร จำนวน 1,197 ไร่ 2 งาน จากปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงปัญหาน้ำเค็มจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกประสบภาวะขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ จำนวน 58 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรขาดแคลนน้ำ 115 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร 587 ไร่ 2 งาน และปศุสัตว์ขาดแคลนน้ำ 1 ครัวเรือน พื้นที่รวม 2 งาน ซึ่งกทม.ได้จัดรถบรรทุกน้ำ และติดตั้งแท็งก์บรรจุน้ำดื่ม น้ำใช้ ในจุดที่กำหนดแต่ละพื้นที่เขตประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว
สำหรับผลกระทบจากปัญหาน้ำเค็มเนื่องจากน้ำทะเลหนุน พบว่ามีค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงรอยต่อกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงถึง 4.5 มิลลิกรัมต่อลิตรซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานที่สามารถนำไปใช้เพื่อรดน้ำต้นไม้และการเกษตรได้ โดยมีครัวเรือประสบปัญหาจากน้ำเค็มแล้ว 188 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรรวม 709 ไร่ 2 งาน ซึ่งสำนักงานเขตได้ช่วยเหลือโดยการนำน้ำจากโรงบำบัดน้ำเสียมาช่วยเหลือพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นางเบญทราย กล่าวอีกว่า กทม.ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ยังได้จัดส่งรถบรรทุกน้ำของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักสิ่งแวดล้อม จำนวน 18 คัน เพื่อสนับสนุนภารกิจแจกจ่ายน้ำประปาให้แก่ประชาชนในเทศบาลตำบลธัญญบุรี เทศบาลตำบลลำลูกกาและ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงคำพร้อย จังหวัดปทุมธานี ที่ประสบขาดแคลนน้ำประปาตามที่ได้รับการร้องขอเมื่อวันที่ 14-15 ก.ค. ตามที่ได้รับการร้องขอ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและได้รับคำขอบคุณจากประชาชนอย่างดียิ่ง อย่างไรก็ตามหากกทม.ได้รับการร้องขอเพิ่มเติมก็พร้อมให้การสนับสนุนต่อไป