โดยผลการประชุมครั้งนี้ ได้รับรองถ้อยแถลงความร่วมมือของประเทศสมาชิกเพื่อรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคเมอร์สและโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากแถลงการณ์ร่วมกันของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยการเตรียมพร้อมและรับมือการระบาดของโรคอีโบลา ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2557
สาระสำคัญของถ้อยแถลงดังกล่าว ประกอบด้วย 1.เพิ่มความเข้มแข็งของประเทศสมาชิกอาเซียนบวก 3 ในการเฝ้าระวังโรค และยกระดับกลไกการประเมินความเสี่ยงระดับภูมิภาคของโรคเมอร์ส หรือโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจถึงความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการควบคุมโรค 2.การแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็ว ระหว่างประเทศสมาชิก 3.การประสานความร่วมมือระหว่างชายแดนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการติดตามผู้เดินทางและความร่วมมือในการสอบสวนโรค
4.สนับสนุนให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศ พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการที่สามารถวินิจฉัยโรคได้ รวมทั้งการมีมาตรการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อ ตลอดจนการสื่อสารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การป้องกันและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ และ5.สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล และถ่ายทอดบทเรียนร่วมกัน ระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนให้เกิดการทบทวนและสังเคราะห์การดำเนินงานที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการโรคเมอร์สในภูมิภาค
ด้าน นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้มีข่าวดีจากประเทศเกาหลีล่าสุด เมื่อวานนี้ ผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังพ้นระยะ 14 วันแล้ว โดยมีผู้ป่วยยืนยัน 186 ราย เสียชีวิต 36 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2558
อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากประเทศฟิลิปปินส์เมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานจากผู้ป่วยเดินทางจากประเทศตะวันออกกลาง ทุกประเทศจึงต้องคงมาตรการเฝ้าระวังโรคเมอร์สอย่างต่อเนื่อง และประเทศเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสรุปผลประสบการณ์ของประเทศในระดับนานาชาติในเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้ ทุกประเทศได้ให้ความสำคัญการใช้มาตรการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมการแพร่กระจายโรคอย่างเหมาะสม