พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำเป็นต้องเรียกขวัญกำลังใจรวมถึงสร้างความเชื่อมั่นว่าหน่วยงานภาครัฐสามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในขณะนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่สำคัญคือจะต้องการเรียกขวัญกำลังใจกลับมา จึงใช้แผนปฏิบัติการเชิงจิตวิทยา และสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้ เป้าหมายการปิดล้อมคือ มุ่งหวังในอาชญากรรม ยาเสพติด รวมถึงความมั่นคง หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ให้กำชับกำลังดูแลความปลอดภัยเน้นสถานที่สำคัญ เช่น สถานทูต เป็นต้น ตนเชื่อว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ เป็นการดิสเครดิตรัฐบาล
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวขณะปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกตรวจพื้นที่ สร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้ประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวย่านสยาม ว่า หลักจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่าน ด้านการสืบสวนมีความคืบหน้าทุกวันแต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงาน
"ในช่วงที่ผ่านตนได้ออกตรวจพื้นที่หลายจุดเพื่อวางมาตรการป้องกันและดูแลรักษาความปลอดภัย โดยพบจุดที่ต้องแก้ไขในเรื่องของความครอบคลุมและความคมชัดของกล้องวงจรปิด ซึ่งได้มีการนำโปรแกรมจดจำใบหน้ามาใช้เพื่อเพิ่มความคมชัด นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจต่าง ๆ เข้าพูดคุยกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าเน้นเรื่องของการติดกล้องซีซีทีวีเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม ยาเสพติด ตลอดจนตรวจค้นอาวุธอีกด้วย"พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว