นอากจากนั้น ขณะนี้ตำรวจยังไม่สรุปว่าเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กับเหตุระเบิดใต้สะพานสาทรมีความเชื่อมโยงกัน 100% แม้จะมีการเก็บชิ้นส่วนบอลแบริ่ง ซึ่งเป็นหลักฐานที่เป็นส่วนประกอบของระเบิดจากที่เกิดเหตุได้ว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกันก็ตาม
"กรณีระเบิดที่ใต้สะพานสาทร และที่แยกราชประสงค์ยังไม่เชื่อมโยงกัน แต่บางส่วนเป็นไปได้ว่าคล้ายๆ กัน แต่ยังเชื่อมโยงกัน 100% ไม่ได้" โฆษก สตช.กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ช่วงเย็นวันนี้
นอกจากนี้ หากจะพิจารณาในแต่ละเหตุการณ์แล้วมองว่าวัตถุประสงค์ของการวางระเบิดน่าจะแตกต่างกัน เนื่องจากในกรณีของแยกราชประสงค์ เชื่อว่าคนร้ายมีวัตถุประสงค์ต้องการให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะเป็นการวางระเบิดไว้ใต้เก้าอี้นั่ง ในขณะที่กรณีใต้สะพานสาทรพบภาพวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้เตะวัตถุต้องสงสัยให้ตกลงไปในน้ำ ซึ่งความเสียหายถือว่าน้อยมาก
"วัตถุประสงค์ต่างกันแน่ การทิ้งในน้ำคงไม่ได้คิดจะทำลายหรือฆ่าคน เพราะถ้าจะระเบิดฆ่าคนก็จะไปซุกไว้ตามจุดต่างๆ แต่การทิ้งในน้ำนั้นที่บริเวณนั้นมีเขื่อนเป็นแนวตั้ง เขื่อนเหล่านี้จะรองรับสะเก็ดระเบิดทั้งหมดไว้ จะเห็นว่าขณะที่ระเบิด คนที่เดินบนสะพานไม่เป็นอันตรายแม้แต่นิดเดียว แค่เปียกน้ำเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากกรณีของราชประสงค์ที่ต้องการให้มีความเสียหายรุนแรง"พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
พร้อมระบุว่า การที่ตำรวจไม่ได้ออกหมายจับชายเสื้อฟ้าที่กล้อง CCTV จับภาพได้ว่าทิ้งถุงลงไปในน้ำ เนื่องจากไม่มีหลักฐานอะไรที่จะแสดงให้เห็นได้ว่าถุงที่เขาทิ้งลงไปในน้ำเป็นวัตถุระเบิด ดังนั้นหากชายเสื้อสีฟ้าคนดังกล่าวเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ก็ขอให้มาแสดงตัว
"กรณีโยนจากข้างบน ตัดทิ้งไป เพราะดูภาพย้อนหลังหลายวัน ก็ไม่มีอะไรหล่นมาจากข้างบน แต่เรายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่เขา(ชายเสื้อฟ้า) เตะลงไปในถุงนั้นเป็นอะไร ยังเชื่อมโยงไม่ได้ว่าเป็นระเบิด แต่คิดว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยที่เราน่าจะตามมาสอบสวน ว่าที่คุณทิ้ง ทิ้งอะไรไป แต่ยังไม่ถึงกับออกหมายจับ เพราะเรายังไม่รู้ว่าที่เขาทิ้งไปนั้นใช่ระเบิดหรือไม่ มันต้องเชื่อมโยงกันก่อน" โฆษก สตช.กล่าว
สำหรับกรณีชายเสื้อสีเหลือง ซึ่งตำรวจออกหมายจับ เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยและมีหลักฐานจากกล้อง CCTV ชัดเจนว่าเป็นผู้วางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เพราะมีภาพระเบิดจากเป้ใบนั้น เพียงแต่ตำรวจยังไม่อยากเอามาแสดงให้เห็น นี่จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับชายเสื้อสีเหลืองดังกล่าว
อย่างไรก็ดี พยานบุคคลและพยานวัตถุจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์นั้นตำรวจได้มาครบแล้ว คือ คนขับแท็กซี่ คนขับรถสามล้อ และคนขี่มอเตอร์ไซค์ รวมทั้งหลักฐานประกอบที่ต้องตรวจสอบก็ได้มาหมดแล้ว ทั้งการตรวจสอบ DNA และลายนิ้วมือภายในรถแท็กซี่ และรถสามล้อ รวมทั้งลายนิ้วมือบนธนบัตรที่ชายเสื้อสีเหลืองจ่ายเป็นค่าโดยสาร ซึ่งถึงเวลาเมื่อได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ก็จะนำเอามาเปรียบเทียบกันได้