"เวลาที่โรงเรียนเลิกยังคงเป็นเวลาเดิม ตามกำหนดของแต่ละแห่งซึ่งมักจะเป็นช่วงบ่ายสี่โมงเป็นต้นไป โดยช่วงเวลาตั้งแต่บ่ายสองโมงจนกว่าจะถึงเวลาโรงเรียนเลิก ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ให้นักเรียนแทน ทั้งนี้ท่านนายกฯฝาก สพฐ. ว่าควรจัดกิจกรรมหลากหลาย ที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม และที่สำคัญควรมีกิจกรรมกระตุ้นให้เด็กได้ค้นหาศักยภาพและความชอบของตนเอง เพราะท่านนายกฯเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความพิเศษ มีความสามารถในแบบฉบับของตนเอง"โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พลตรีสรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกฯแนะนำว่าการจัดกิจกรรมไม่จำเป็นต้องเปิดให้เฉพาะห้องเดียวกันหรือระดับชั้นเดียวกัน บางกิจกรรมสามารถศึกษาหรือทำร่วมกันหลายระดับชั้นได้ เพื่อให้เด็กๆรู้จักการปรับตัว การช่วยเหลือดูแลกัน การมีปฏิสัมพันธ์กับคนหลายช่วงวัย ซึ่งเป็นการจำลองสภาพจริงในสังคมให้เด็กได้เรียนรู้ ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาให้กับเด็กไทย
"ท่านนายกฯ อยากให้ผู้ปกครอง สบายใจว่า มิใช่ โรงเรียนจะเลิกเร็ว แล้วกลายเป็นผลักภาระให้ผู้ปกครอง โรงเรียนยังคงต้องทำหน้าที่ให้การศึกษา แต่เป็นการศึกษาที่ไม่ได้เน้นแค่วิชาการ จนขาดทักษะด้านอื่นที่จำเป็นและสำคัญมาก คือทักษะการใช้ชีวิตและการรู้จักตนเอง"