โฆษก สตช.กล่าวว่า จากการจับกุมชาวต่างชาติ 1 รายที่ย่านมีนบุรีนำไปสู่การขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ และพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบนำชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยก่อนจะส่งตัวไปยังประเทศที่ 3 โดยเฉพาะการพบพาสปอร์ตเปล่าจำนวนมากในห้องพักของผู้ที่ถูกควบคุมตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งสมมติฐานในเบื้องต้นและกำลังพยายามสืบสวนขยายผลดังกล่าว
สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายจับ 2 ราย คือ นางสาววรรณา หรือ นางไมซาเลาะ สวนสันต์ ในข้อกล่าวหาครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่กลางปี 58 แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าขณะนี้พำนักอยู่ในตุรกีกับสามีตามที่แจ้งข้อมูลมาหรือไม่ โดยน.ส.วรรณา เป็นผู้เช่าห้องพักให้กับชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวมาเช่าต่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างประสานงานให้เข้ามาให้พบ ส่วนชายตามภาพเสก็ตช์ที่ถูกออกหมายจับอีกรายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่
รายงานข่าว ระบุว่า เจ้าหน้าที่ขยายผลไปถึงขบวนการลักลอบนำบุคคลต่างด้าวเข้ามาประเทศไทย เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมดังกล่าว และในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ส่วนกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งย้ายนายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสระแก้ว 6 นายนั้น เนื่องจากการตรวจสอบพบว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่จังหวัดสระแก้ว มักมีการลักลอบนำบุคคลต่างด้าว เข้ามาในประเทศไทย ผ่านทางด่านดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งจึงพิจารณาได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อาจเกิดการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงมีคำสั่งให้นายตำรวจทั้ง 6 นายเข้ามาปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั่วคราว
แต่การโยกย้ายนายตำรวจทั้ง 18 นาย ในพื้นที่สน. มีนบุรี และหนองจอก นั้น เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งที่อยู่อาศัยของบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก จึงแสดงให้เห็นถึงการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่จึงนำมาซึ่งคำสั่งดังกล่าวเช่นกัน