"ในจุดนี้(สถานีรถไฟหัวลำโพง)เป็นจุดที่นายยูซุฟูให้การระบุว่าเป็นจุดนัดพบกับกับชายเสื้อเหลืองเพื่อสลับกระเป๋าเป้ที่คาดว่าบรรจุระเบิด โดยนายยูซูฟูให้การว่าในกระเป๋าใบที่นำมาให้ชายเสื้อเหลืองนั้นมีน้ำหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม ซึ่งนำมาจากย่านหนองจอก จึงคาดว่าน่าจะมีระเบิดอยู่ภายใน ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกัน" พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวภายหลังนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โฆษก สตช. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้ต้องหาแต่ละคนทำหน้าที่อะไรบ้าง ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันก็ยังไม่สามารถเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาหรือกระแสข่าวที่ออกมาได้
"ในทางสอบสวนไปแล้ว แต่ผมยังสรุปไม่ได้ อย่างที่บอกว่าคนนี้เป็นตัวการ คนนี้เป็นคนจ้างวาน ข้อเท็จจริงอีกมุมหนึ่งมันไม่ใช่เลย อย่าเพิ่งไปสรุป รอให้ประมวลทั้งหมดแล้วมาบอกดีกว่า เราไปเชื่อคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เขาจะยอมรับตามสิ่ง(หลักฐาน)ที่เรามี...สิ่งที่ผมจะบอกว่าผมรู้ต้องมีหลักฐาน ผมไม่สามารถจะพูดลอยๆ เกิดมันไม่ใช่ขึ้นมา" พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
โฆษก สตช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและพิสูจน์ในทางลับ โดยวันนี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติมจากเดิม 10 ราย ส่วนข้อมูลซัดทอดถึงนายอิซานเป็นผู้จ้างวานนั้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเอกสารหลักฐานที่ได้มาเป็นของจริงหรือไม่ ซึ่งคงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสักหน่อย เพราะการทำงานของกลุ่มคนร้ายเตรียมการมาอย่างดี มีการตัดตอนเพื่อป้องกันการเชื่อมโยงถึงกัน
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมา หน่วยอรินทราช กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้คุมตัวนายยูซุฟู ออกจาก สน.มีนบุรี เพื่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อในวันที่สองใน 3 จุดหลัก เริ่มจุดแรกที่บริเวณหน้าวัดปทุมวนาราม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ต้องหานั่งรถสามล้อมาจากย่านหัวลำโพง เพื่อมายังหน้าห้างสรรพสินค้า ZEN และเดินต่อมายังบริเวณสกายวอล์ค หรือทางลอยฟ้าเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่แยกราชประสงค์ และเป็นจุดที่นายยูซุฟูพยายามถ่ายภาพขณะเกิดเหตุ เพื่อส่งให้นายอิชาน ผู้บงการ แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจไม่ถ่ายภาพ เนื่องจากเกรงจะถูกคนรอบข้างสงสัย
หลังจากนั้นได้เดินผ่านไปทางย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขึ้นรถแท็กซี่ไปบริเวณรามคำแหง และนั่งรถโดยสารสาธารณะต่อไปลงที่ตลาดย่านมีนบุรี โดยขณะทำแผนต้องใช้กำลังตำรวจและทหารจำนวนมากในการดูแลความปลอดภัย ทำให้การจราจรบริเวณรอบแยกราชประสงค์ค่อนข้างติดขัดอย่างมาก โดยใช้เวลาในการทำแผนรวมกว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้นหน่วยอรินทราชได้คุมตัวนายยูซุฟูไปทำแผนต่อในจุดที่สอง บริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม ข้างสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นจุดที่นายยูซุฟูนำเป้สะพายสีดำที่บรรจุระเบิดไปส่งมอบให้ชายเสื้อเหลือง เพื่อนำไปก่อเหตุที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา
และจุดสุดท้ายที่ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ปากซอยรามคำแหง 22 ซึ่งกล้องวงจรปิดจากธนาคารดังกล่าวบันทึกภาพได้ว่า นายยูซุฟูเข้าไปธนาคารกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อิซาน อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้วางแผนสั่งการในเหตุระเบิดดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ตำรวจได้ควบคุมตัวนายยูซุฟูมาสอบสวนต่อที่ สน.มีนบุรี ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังผลัดแรกต่อศาลจังหวัดมีนบุรีเป็นเวลา 12 วัน ในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย