ผบ.ตร.ปัดข่าวมาเลย์รวบผู้ต้องสงสัยวางระเบิดราชประสงค์, เตรียมย้าย 2ผู้ต้องหาไปมทบ.11

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2015 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการวางระเบิดแยกราชประสงค์ได้ 3 ราย เป็นชาวมาเลเซีย 2 ราย และปากีสถาน 1 รายว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รับรายงานใด ๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รวมถึงการจับกุมชายเสื้อเหลืองด้วยเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต้องหาอยู่ตลอด และได้มีการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีไปยังต่างประเทศของ นายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเราะห์มาน หรือ นายอิซาน ตั้งแต่ออกจากประเทศไทย ไปจนถึงประเทศจีน ตามรายงานของสถานทูตปากีสถานที่พบข้อมูลการเข้าออกประเทศ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน และหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดจะดำเนินการออกหมายจับทันที

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่มีการเตรียมความพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันชาติจีนที่จะถึงในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้น

ด้านนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากการที่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เข้าไปตรวจดูความพร้อมของเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ที่มณฑลทหารบกที่ 11 แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ายังไม่แข็งแรงรัดกุมพอที่จะคุมขังผู้ต้องหาคดีสำคัญอย่างนายอาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู หากจะย้ายไปตอนนี้ก็ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นจึงได้แนะนำให้ทหารปรับปรุงสถานที่คุมขังเพิ่มความแข็งแรง และมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น จึงคาดว่าการย้ายตัวนายอาเด็ม กับนายยูซุฟูไปเรือนจำชั่วคราวแขวงนครไชยศรี อาจจะยังไม่ใช่วันนี้ เพราะต้องรอความพร้อมด้านสถานที่ก่อน

สำหรับสาเหตุที่ ที่พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งให้ย้ายนายอาเด็มและนายยูซุฟูไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงนครไชยศรีนั้น เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมกับต้องใช้ล่ามแปลทุกครั้ง ดังนั้นการย้ายผู้ต้องหาทั้ง 2 ออกจากผู้ต้องหาคดีทั่วไป จะช่วยให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการสอบปากคำและการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้ต้องหามากยิ่งขึ้น

ด้านนายไพฑูรย์ อำพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเรือนจำอยู่ระหว่างรอเอกสารอนุมัติจากกรมราชทัณฑ์ และการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งหากเอกสารมาถึงเมื่อใดก็จะสามารถย้ายผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปเรือนจำชั่วคราวนครไชยศรีได้ทันที ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเป็นความลับทางราชการที่อาจกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยของผู้ต้องหา ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เบื้องต้นไม่มีภาวะเครียดและยังไม่มีใครมาขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ