ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อจะนำไปสู่การดำเนินคดี หาตัวผู้กระทำผิดซึ่งอาจจะจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความรอบคอบในทุกๆด้าน และอยากขอความร่วมมือจากประชาชนหากมีข้อมูลใดที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ ยังสามารถแจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง หรือสายด่วน 1515 ได้ตลอดเวลา
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ระบุว่า วันนี้ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เพื่อเร่งรัดสำนวนการสอบสวนและสืบสวนควบคู่กันไป รวมถึงดูภาพรวมของการทำงานของเจ้าหน้าที่
ส่วนการส่งทีมสืบสวนไปประเทศมาเลเซียนั้นได้กำหนดกรอบมติให้กับชุดที่เดินทางไปแล้ว ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศไทยยังไม่มีการพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ถูกทางการประเทศมาเลเซียจับกุมได้ แต่กำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่
รอง ผบ.ตร. ยอมรับว่า สัปดาห์ที่ผ่านมีความมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมชายเสื้อเหลืองและชายเสื้อฟ้าได้ แต่จากนำเสนอข่าวของสื่อที่รวดเร็วเกินไปอาจทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวและหลบหนีไปได้ บางครั้งการนำเสนอของสื่อทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ยากขึ้น
ส่วนการออกหมายจับนายอับดุล ตาวาบ ผู้ต้องรายที่ 13 เชื่อว่าจะมีความเชื่อมโยงกันกับผู้ต้องหาที่มีการออกหมายจับไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนของการค้ามนุษย์หรือไม่นั้นอยู่ในกรอบของการหารือในครั้งนี้ด้วย
รอง ผบ.ตร. คาดว่า วันนี้เวลาประมาณ 13.00น.เจ้าหน้าที่ทหารจะควบคุมตัวนางปณิฐ์สรา ชาลีรัฐรมย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ที่หอพักสตรีอู๊ด ย่านดินแดง มาส่งมอบให้ตำรวจนครบาลเพื่อทำการสอบปากคำในฐานะพยาน และหากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับชายเสื้อฟ้าทางเจ้าหน้าที่จะตั้งข้อหาทันที