"เรื่องนี้จริงๆ เป็นสมมติฐานแรกๆ ที่ผมคิดไว้เหมือนกัน เพราะคล้ายกันมาก ถึงขนาดทำภาพสเกตซ์ออกมาว่าจากที่จักรยานยนต์รับจ้างเห็น เราทำภาพเสกตซ์ถอดแว่น ถอดวิกออก แล้วลองใส่เคราว่าจะเหมือนไหม(อาเดม คาราดัก) ปรากฎว่าคล้ายมาก ซึ่งเป็นสมมติฐานแรก แต่ยังไม่ยืนยันตอนนี้" โฆษก สตช.กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้
โฆษก สตช.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการหาหลักฐาน รวมถึงกรณีที่ระบุว่าหลังจากนายอาเดม เรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างจากแยกราชประสงค์ไปที่สวนลุมพินี แล้วเข้าไปห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดแว่น ถอดวิกผมออก และเรียกเท็กซี่ให้ไปส่งที่พูนอนันต์แมนชั่น ย่านหนองจอก ซึ่งทางตำรวจเคยพยายามหาหลักฐานในสวนลุมพินีแล้วแต่ยังไม่พบ
"ยังยืนยันไม่ได้ ผมก็หาอยู่(หลักฐานจากกล้องวงจรปิด) วันนั้นก็ไปหาทั้งสวนลุม และจาก รพ.จุฬา ตอนนี้ยังไม่ยืนยัน อาจจะมีใครเก็บมาเพิ่มให้ก็ได้"พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
หนังสือพิมพ์เช้านี้รายงานว่า นายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลา มูฮัมหมัด ให้การย้อนเหตุการณ์วันเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ว่า หลังจากนำกระเป๋าเป้ใส่ระเบิดไปวางไว้ที่ม้านั่งในศาลท้าวมหาพรหมแล้ว ได้เดินออกมาเรียกจักรยานยนต์รับจ้างในซอยมหาดเล็กหลวงไปลงที่สวนลุมพินี แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำของสวนลุมพินี ถอดวิกผมและแว่นตาที่ใส่อำพรางตัวออก เปลี่ยนเสื้อจากสีเหลืองไปสวมเสื้อสีเทา แล้วเอาเสื้อและอุปกรณ์พรางตัวใส่ถุงพลาสติกสีขาวเดินออกมาจากสวนลุมพินี
ชุดสืบสวนจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบย้อนหลัง พบภาพนายอาเดม สวมเสื้อเทาถือถุงพลาสติกสีขาวเดินออกมาจากสวนลุมพินี แล้วเรียกแท็กซี่หนีกลับไปซ่อนตัวที่ห้อง 414 พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ ซึ่งสอดรับกับภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่มือระเบิดเสื้อเหลืองหยิบถุงพลาสติกสีขาวออกจากกระเป๋าเป้ ก่อนเดินหนีออกมาจากบริเวณศาลท้าวมหาพรหม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เดินทางไปพบอธิบดีตำรวจมาเลเซีย เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยที่รับสารภาพว่าเป็นมือวางระเบิดแยกราชประสงค์ โดยนำภาพผู้ต้องสงสัยที่ตรวจสอบจากหนังสือเดินทางทราบชื่อนายอาริ โซลัน มาให้นายยูซุฟู ผู้ต้องหาชี้ยืนยันภาพว่าเป็นมือระเบิดเสื้อเหลืองหรือไม่ แต่หลังชุดสืบสวนนำมาตรวจสอบเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานและรูปพรรณสัณฐานคนร้ายในวันเกิดเหตุ พบว่ามีความคาดเคลื่อนในเรื่องรูปพรรณ และคำให้การของนายอาริ มีประเด็นน่าสงสัยเกี่ยวข้องกับนายนายอาเดม การาดัค ผู้ต้องหาชาวตุรกี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางระเบิดจำนวนมาก
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้ว่าคำให้การของผู้ต้องหานั้นเป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ต้องหามีการเปลี่ยนแปลงคำพูดอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องหาพยานหลักฐานสำคัญมาประกอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด และที่ผ่านมาจากการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่ละครั้งต้องใช้หลักฐานกดดันถึงจะรับสารภาพหรือยอมจำนนต่อพยานหลักฐาน
อีกทั้งหากเจ้าหน้าที่ด่วนสรุปตามคำให้การของผู้ต้องหา อาจทำให้เกิดความสับสน จึงจำเป็นเป็นต้องทำให้เกิดความแน่ชัดเสียก่อน เพราะหากนายอาเดมเป็นชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดจริงก็จะต้องตอบคำถามได้ว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเดินทางไปที่ไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง มีการพูดคุยกับใครบ้าง
ส่วนกรณีมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องน้ำสาธารณะสวนลุมพินี ที่ผู้ต้องหาทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดวิกผมนั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานดังกล่าวจริงหรือไม่ แต่การสรุปสำนวนนั้นจำเป็นต้องมีพยานหลักฐานประกอบครบถ้วนในทุกๆ ด้านก่อน
อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ยังมั่นใจว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นเดินมาถูกทางตั้งแต่ต้นแล้ว โดยที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการหลายราย และสามารถควบคุมผู้ต้องหาคนสำคัญได้จนนำไปสู่การขยายผลที่เป็นประโยชน์ และจากการตรวจยึดหลักฐานอุปกรณ์ประกอบระเบิดนั้น คาดว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเตรียมก่อเหตุระเบิดอีกหลายสิบจุดอย่างแน่นอน