อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันของเขื่อนทั้ง 4 แห่ง เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนเดือนตุลาคมนี้ จะอยู่ในเกณฑ์รวมกันประมาณ 3,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ไม่สามารถสนับสนุนด้านการเกษตรได้
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. – 4 ตุลาคม 2558 บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพียงเล็กน้อย ส่งผลต่อปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนลดน้อยลงตามไปด้วย และเป็นสัญญาณว่า ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใกล้จะสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว
กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานทุกแห่งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ใช้น้ำและกุล่มเกษตรกรในพื้นที่ของตน ให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการใช้น้ำอย่างเป็นระบบ ประหยัด และเข้าใจในสถานการณ์น้ำที่เป็นอยู่ ช่วยลดความขัดแย้งเรื่องน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่รุนแรงได้ในอนาคต