ด้านการพบเห็นการขายลอตเตอรี่เกินราคา หลังจากรัฐบาลพยายามควบคุมราคาขายลอตเตอรี่ไม่ให้เกินราคาที่กำหนดไว้ รวมถึงการเปิดเสรีโควตาลอตเตอรี่สำหรับผู้ค้ารายย่อย พบว่า ประชาชนที่ซื้อลอตเตอรี่ส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.69 ระบุว่า ไม่พบเห็นการขายลอตเตอรี่เกินราคาที่กำหนดไว้ ขณะที่ร้อยละ 40.04 ระบุว่า ยังคงพบเห็นการขายลอตเตอรี่เกินราคาที่กำหนดไว้ และร้อยละ 0.27 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
สำหรับการซื้อลอตเตอรี่ของประชาชน หากพบเห็นการขายลอตเตอรี่เกินราคาที่กำหนดไว้ พบว่า ประชาชนซื้อลอตเตอรี่ส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.30 ระบุว่า จะไม่ซื้อ เพราะราคาแพงกว่าที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ เป็นการเอาเปรียบและไม่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค ผู้ซื้อไม่ควรอุดหนุนหรือสนับสนุนคนที่เอาเปรียบคนอื่น และเราสามารถมีสิทธิ์ที่จะเลือกซื้อร้านอื่นที่ขายถูกกว่า รองลงมา ร้อยละ 25.59 ระบุว่า จะยังคงซื้อแม้ว่าจะขายเกินราคาที่กำหนดไว้ เพราะเลขนั้นเป็นเลขเด็ดหรือหายาก และขายราคาเกินกำหนดไม่มาก เช่น 100 บาท หรือในกรณีที่คนขายเป็นคนพิการ และร้อยละ 1.10 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการแจ้งความดำเนินคดีของประชาชน หากพบเห็นการขายลอตเตอรี่เกินราคาที่กำหนดไว้ พบว่า ประชาชนซื้อลอตเตอรี่ส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.15 ระบุว่า จะไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่ต้องการแจ้งเอาความผิดและทำลายอาชีพผู้ขาย เห็นใจในคนที่มีรายได้น้อย หากเราไม่ซื้อก็จะเป็นการตัดปัญหา เพราะในที่สุดก็จะขายไม่ได้ ซึ่งบางครั้งก็รับมาแพง และส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้พิการหรือผู้สูงอายุ รองลงมา ร้อยละ 17.73 ระบุว่า จะแจ้งความดำเนินคดี เพราะเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้มีการกำหนดราคาไว้แล้ว ร้อยละ 0.46 ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าคนขายเป็นคนพิการหรือไม่ และขายเกินกำหนดมากน้อยเพียงใด และร้อยละ 4.66 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศกระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,733 หน่วยตัวอย่าง ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2558