ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มอบหมายให้ปรับใช้ฐานข้อมูลที่มีอยู่ให้สามารถถ่ายทอดนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปปรับใช้ได้อย่างสอดคล้องและบูรณาการ ขณะที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ให้หาแนวทางปฏิบัติการช่วยเหลือและสนับสนุนการเติมน้ำในเขื่อนให้กับกรมชลประทานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้ดูแล บำรุงรักษาเครื่องบินที่มีอยู่ และให้จัดหาเครื่องบินใหม่ที่เหมาะสม
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้ว่า ขณะนี้ได้คลี่คลายไปในระดับหนึ่ง โดยแม้ในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสงขลายังมีหมอกควันสูงอยู่บ้างแต่ยืนยันว่าไม่เกินค่ามาตรฐานและมีแนวโน้มจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่ายังมีจุดที่เกิดหมอกควันสูงในประเทศอินโดนีเซียซึ่งอาจกระจายอิทธิพลมายังภาคใต้ของประเทศไทย จึงเตรียมรับมือและเฝ้าระวัง โดยการย้ายฐานการทำฝนหลวงจากจังหวัดระยองไปที่จังหวัดกระบี่ รวมถึงขอความร่วมมือจากกองทัพอากาศ ในการจัดทำฐานการทำฝนหลวง ในพื้นที่กองบิน 56 จังหวัดสงขลา
นอกจากนี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยังสั่งการให้มีการเฝ้าระวังหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือหลังจากสิ้นฤดูฝน ซึ่งกรมฝนหลวงจะดำเนินการปรับฐานการบินเพื่อให้สอดคล้องพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้ง ขยายระยะเวลาปฏิบัติการผลิตฝนหลวง จากปกติที่จะหยุดปฏิบัติการช่วงกลางเดือนตุลาคมจะขยายไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม รวมถึงจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งจะเข้าปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ทันทีที่ได้รับแจ้งช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยประจำการอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ด้วย