"แม้ว่าขณะนี้ประชาชนจะให้ความสำคัญต่อการป้องกันโรคหลายรูปแบบ ทั้งใช้ผ้าปิดจมูก ใส่ถุงมือ และใช้ผลิตภัณฑ์เช่นสบู่ฆ่าเชื้อ ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อแล้วก็ตาม แต่ยังให้ผลไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการล้างมือเพื่อให้การป้องกันโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การล้างมืออย่างถูกวิธีเพียง 15 วินาที สามารถลดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 90 กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนล้างมือด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่ เพื่อลดการป่วยจากโรคติดเชื้อ ให้ยึดหลัก "2 ก่อน 5 หลัง" การล้าง 2 ก่อน ได้แก่ ล้างก่อนรับประทานอาหาร และก่อนเตรียมหรือปรุงอาหาร
ส่วนล้าง 5 หลัง ได้แก่ 1.ล้างภายหลังจากเข้าห้องน้ำห้องส้วม 2.หลังหยิบจับ สัมผัสสิ่งสกปรก เช่นถังขยะ สิ่งของที่เป็นพิษเช่นยาฆ่าแมลง 3.หลังเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล 4.หลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง และ5.หลังจากกลับจากนอกบ้าน เช่นกลับจากโรงเรียน ที่ทำงาน ผลการสำรวจพฤติกรรมการล้างมือของคนไทยวัยทำงานอายุ 15 ขึ้นไป โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในปี 2557 พบว่าไม่ได้ล้างมือหลังขับถ่ายสูงถึงร้อยละ 88
ทางด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันล้างมือโลกปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้ประชาชนไทยทุกคนหันมาใส่ใจล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้ง และให้กรมอนามัยส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ เช่นโรงพยาบาล โรงเรียน วัด หน่วยงานราชการ ศูนย์การค้า ศูนย์อาหาร ตลาดสด เป็นต้น จัดสถานที่ อ่างล้างมือ และสบู่ล้างมือ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนล้างมือ มั่นใจว่าหากประชาชนทุกคนมีค่านิยมล้างมือจนติดเป็นนิสัยแล้ว จะทำให้การเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อ รวมทั้งจากพิษต่างๆ ลดลงในที่สุด
ทั้งนี้ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ที่ถูกวิธี มี 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1.ฝ่ามือถูกัน 2.ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3.ฝ่ามือถูฝ่ามือและถูซอกนิ้วมือ 4.หลังนิ้วถูฝ่ามือ 5.ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6.ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ7.ถูรอบข้อมือ ทุกขั้นตอนให้ทำซ้ำกัน 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง จะทำให้มือสะอาด