พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อเรียกรับผลประโยชน์และกระทำความผิด ทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน เจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูล จากการซักถามพบว่ามีมูลกระทำความผิดจริง จึงแจ้งความร้องทุกข์กับกลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีดังกล่าว กล่าวว่า คดีทั้งหมดของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีจำนวนทั้งสิ้น 13 คดี ซึ่งส่วนใหญ่นายสุริยัน พ.ต.ต.ปรากรม และนายจิรวงศ์ ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ร่วมกันดูหมิ่นอาฆาตมาดร้าย ด้วยการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เพื่อขอรับการสนับสนุนในการจัดทำสิ่งของ และเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนต่าง ๆ รวมทั้งแอบอ้างเป็นผู้แทนพระองค์นำพระไปมอบให้บริษัทเอกชน
ขณะที่ พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก มีข้อหาเกี่ยวกับการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ทหารพบอาวุธ วิทยุ รถยนต์ ผิดกฎหมาย อีกทั้งร่วมกับ บริษัท สามารถเทเลคอม กับพวกตั้งสถานีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และ บังอาจแอบอ้างเบื้องสูงขอสนับสนุนหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้นำของกลางที่มีการตรวจยึดจากผู้ต้องหาทั้งหมดมาแสดงในสถานที่แถลงข่าว โดยมีทั้งอาวุธปืนหลาย 10 กระบอก วิทยุสื่อสารจำนวนมาก กีต้าร์ไฟฟ้ามูลค่าสูง และทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้แก่ พระเครื่อง นอกจากนั้น ยังมีภาพแสดงสินทรัพย์ที่เป็นรถยนต์หรูและรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ยึดมาจากที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยแผนผังพฤติกรรมของ นายสุริยัน และนายจิรวงศ์ ได้เรียก บริษัท แมค บารา มาคุยเพื่อสั่งผลิตเข็มกลัดโดยผ่านการแนะนำของฝ่ายจัดซื้อ บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ก.ค.58 นายสุริยัน สั่งทำเข็มกลัดจำนวน 3 แสนชิ้น ซึ่งต่อมา น.ส.ทิพวรรณ อัศวก้องเกียรติ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท แมค บารา ได้พบกับ นายสุริยัน และนายจิรวงศ์ โดยน.ส.ทิพวรรณ เสนอราคาเข็ดกลัดชิ้นละ 3.70 บาท แต่นายสุริยันให้เพิ่มราคาเป็น 5.70 บาท แล้วให้เอาเงินส่วนกลางโอนให้นายสุริยัน
จากนั้น น.ส.ทิพวรรณ ส่งใบเสนอราคามาให้บริษัทในเครือเจิญโภคภัณฑ์ โดยแบ่งเสนอราคาเป็น 5 บริษัท รวม 3,049,500 บาท ซึ่งทางเครือซีพีจ่ายค่ามัดจำ 50% จำนวน 1,482,000 บาทให้กับบริษัท แมค บารา และน.ส.ทิพวรรณ ถอนเงินออกจากบัญชีบริษัทจำนวน 1.2 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของบุคคลหนึ่ง จากนั้นนำเงินไปซื้อกองทุนสะสมในนามของนายสุริยัน ส่วนอีก 2 แสนบาทเข้าบัญชีของนายจิรวงศ์ 2 แสนบาทที่ได้ถอนเงินมาใช้จนหมด
ส่วนอีกช่วงหนึ่ง เมื่อวันที่ 30 ก.ย.58 นายสุริยัน สั่งทำเข็มกลัดอีก 2 ล้านชิ้น ซึ่ง น.ส.ทิพวรรณ เสนอราคาชิ้นละ 2.75 บาท จากนั้นเสนอราคาให้เครือเมืองไทยบประกันภัย และ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต รวมราคา 19,700,000 บาท โดยทั้งสองบริษัทจ่ายค่ามัดจำ 50% เป็นเงิน 5,350,000 บาท ให้กับบริษท แมคบารา จากนั้น น.ส.ทิพวรรรณ ถอนเงินจากบัญชี 4,773,000 บาท โอนให้กับเครือข่ายของนายสุริยัน และนายจิรวงศ์