ที่น่าห่วงก็คือการรับข้อมูลที่มากเกินไปแล้ว จนทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า สมองคิดตามทำงานตลอดเวลา เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติ เช่น กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากขึ้น ทำให้ปวดแสบท้อง หัวใจทำงานหนัก ความดันเลือดเพิ่มขึ้น เป็นต้น และหากจ้องอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานกว่าสิบชั่วโมงในแต่ละวัน อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพตา ไม่ว่าจะปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า สายตาสั้น อาจทำให้เกิดต้อกระจกขึ้นได้เร็วขึ้น
"ขอให้ประชาชนแบ่งเวลาในการรับข้อมูลข่าวสารให้เหมาะสม ทำชีวิตให้สมดุลไม่หมกมุ่นกับข่าวสารจนทำให้ร่างกายอ่อนล้า จนเกิดความเครียด ควรทำกิจกรรมอื่นๆ นอกจากการติดตามข้อมูลข่าวสาร เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา ฟังเพลง รับประทานอาหาร รวมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ร่างกายผ่อนคลาย จะช่วยให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟีน (endorphine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ขจัดความเครียด ช่วยให้นอนหลับสบาย" ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นอกจากนี้ ความรู้สึกว่าต้องการข่าวใหม่ๆเข้ามาเร้าความสนใจตลอดเวลา ทำให้บางคนรับข้อมูลโดยขาดการกลั่นกรองข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการแชร์ข้อมูลลักษณะ ข่าวลือ ข่าวกระแส หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ถูกนำมาเผยแพร่ใหม่ทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องใหม่ หรือกำลังเกิดขึ้น หรือต่อเติมข้อความจากความคิดของตนเอง ให้ข้อมูลธรรมดากลายเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจ สร้างเรื่องที่ธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ น่าสนใจ ปรากฎการณ์แบบนี้ ทำได้ง่ายขึ้นในยุคเทคโนโลยีปัจจุบัน ทั้งนี้หากผิดพลาดไปจะส่งผลกระทบเสียหายในวงกว้างโดยเฉพาะข่าวลือที่อาจสร้างความเกลียดชังให้เพิ่มขึ้น ขอให้ตรวจสอบก่อนส่งต่อหรือเช็คข้อมูลก่อนแชร์ หากไม่แน่ใจข้อมูลจากโซเชียล หรือแหล่งที่มา ไม่ควรแชร์หรือส่งต่อในทันที