โดยการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดเตรียมพื้นที่สถานีขนส่ง ชานชาลา และพื้นที่จอดรถสำรองให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน รวมทั้งจัดเตรียมและเพิ่มจำนวนรถโดยสารประจำทาง เพิ่มจำนวนตู้โดยสารรถไฟ และเที่ยวบินเสริมพิเศษ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2558 จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2559 จำนวน 217,983 เที่ยว รองรับผู้โดยสารจำนวน 14,312,529 คน/เที่ยว
พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือสมาคมขนส่งสินค้า สมาคมรถบรรทุกและผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกให้หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในช่วงเทศกาลเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรและป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในช่วงเทศกาล, จัดรถ Shuttle Bus รถเฉพาะกิจฟรี ช่วงวันที่ 29-30 ธันวาคม 2558 เวลา 16.00-22.00 น.(ขาออก) และวันที่ 3-4 มกราคม 2558 เวลา 05.00-08.00 น.(ขาเข้า) จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3 วงกลมอู่หมอชิต 2-สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร และสาย 54 อู่หมอชิต 2-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ขยายเวลาในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ถึงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 1 มกราคม 2559, จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำจำนวน 20 จุด, จัดเรือด่วนเสริมพิเศษ ท่าเรือสะพานสาทร-ท่าเรือเอเชียทีค ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2558-1 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.
ในด้านการอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนน มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาจราจรบริเวณหน้าด่านบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7(มอเตอร์เวย์สายตะวันออก) และ 9(ถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันตก) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2559, ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี(ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2559, หยุดดำเนินการก่อสร้าง/ซ่อมแซมถนนและสะพานในช่วงเทศกาล พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องหมายเตือน ป้ายแนะนำ และไฟสัญญาณเป็นระยะๆ ให้ชัดเจนก่อนถึงบริเวณก่อสร้าง/ซ่อมบำรุงทาง, ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อบริหารจัดการสภาพการจราจรบนถนนสายหลัก 210 ตัว และติดตั้ง CCTV Mobile บนจุดเฝ้าระวัง 35 ตัว รวมเป็น 245 ตัว,
รายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time ในระบบบริหารงานภัยพิบัติและสภานการณ์ฉุกเฉิน และรายงานสภาพการจราจรหนาแน่นและติดขัดทุกชั่วโมง และหัวหน้าทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมพร้อมอำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหา บริหารจัดการได้ตลอด 24 ชั่วโมง, บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดตั้งจุดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้ครอบคลุมพื้นที่จุดเสี่ยง โดยเน้นในบริเวณถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 10 อันดับแรกของช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558, จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ/ สถานีขนส่ง/ ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสาร/ สถานีรถไฟ/ สถานีรถไฟฟ้าให้มีความพร้อมรองรับปริมาณการใช้บริการของประชาชน รวมทั้งเข้มงวดเรื่องความสะอาดของห้องน้ำภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และต้องจัดให้มีที่จอดรถยนต์ รถจักรยานที่สะดวกและปลอดภัยอย่างเพียงพอ,
การอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลการจราจร ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยคมนาคมจัดให้มีเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ (Call Center) สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวก บรรเทาและแก้ไขปัญหาการเดินทาง รวมทั้งรายงานสถานการณ์ให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมทราบและพิจารณาสั่งการกรณีฉุกเฉินและเร่งด่วนได้ทันท่วงที และศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงคมนาคม (MOTOC) ให้บริการระบบบริหารจัดการอุบัติเหตุด้านการขนส่ง (TRAMS) แก่หน่วยงาน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่อำนวยความสะดวกและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุ
แผนงานบริหารด้านความปลอดภัย ประกอบด้วย 7 มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านการบริหารจัดการผู้ขับขี่/ผู้โดยสารปลอดภัย ผู้ขับรถโดยสารประจำทางและผู้ประจำรถทุกคน ถูกตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนรถโดยสารประจำทางออกจากสถานีทุกแห่งทั่วประเทศ โดยต้องมีเวลาพักผ่อนเพียงพอและไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างการให้บริการ โดยมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวนร้อยละ 100 และผู้โดยสารรถโดยสารประจำทาง ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง, มาตรการยานพาหนะปลอดภัย การตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจบนถนนสายหลัก/สายรอง สถานีขนส่งผู้โดยสาร/จุดจอด ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาค ควบคุมความเร็วรถโดยสารของ บขส. จำนวน 800 คัน ด้วยระบบ GPS ประสานผู้ประกอบการรถร่วม บขส. ให้ควบคุมความเร็วด้วยระบบ GPS ตรวจสภาพความพร้อมของเรือโดยสารให้มีความมั่นคง แข็งแรง พร้อมทั้งมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต เป็นต้น, มาตรการถนนปลอดภัย ตรวจสอบป้ายจราจรเครื่องหมายควบคุมการจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างและไฟกระพริบให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน เป็นต้น, มาตรการบังคับใช้กฎหมาย ตรวจจับรถที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดด้วยเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ และห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ บนรถ/รถไฟ และภายในพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร, มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ จัดหน่วยพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยการประสานองค์กรต่างๆ เช่น หน่วยกู้ภัย มูลนิธิ ทีมอาสาท้องถิ่น หน่วยพยาบาล เป็นต้น, มาตรการด้านความมั่นคง มีการติดตั้งกล้อง CCTV ประจำสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดพนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เพียงพอ และจัดพนักงานตรวจความปลอดภัยยืนประจำจุดตรวจสัมภาระ (Walk through Scanner) ที่กำหนดเพื่อตรวจสอบการเข้าใช้ระบบของผู้โดยสารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร, มาตรการด้านการประชาสัมพันธ์ จัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ด้านความปลอดภัย ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนรถ/รถไฟ และภายในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเป็นการกระทำผิดกฎหมาย