ศปถ.เผยอุบัติเหตุสะสม 6 วันสูงกว่าปีก่อน ตาย 340 ราย ยึดรถกว่า 4 พันคัน

ข่าวทั่วไป Monday January 4, 2016 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.)ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค.59 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของโครงการรณรงค์ "สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559" เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 361 คน

ขณะที่ยอดอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.58-3 ม.ค.59 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,092 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 340 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,216 คน โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์มี 5 จังหวัด ได้แก่ ตรัง แพร่ ระนอง สิงห์บุรี และสุโขทัย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 125 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 15 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 125 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 19.79 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 16.17 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.26 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 68.73 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.71 บนถนนใน อบต. หมู่บ้าน ร้อยละ 34.51 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 33.92 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.26

โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,101 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,403 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 620,485 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 97,679 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 28,705 ราย ไม่มีใบขับขี่ 27,214 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ตาก พระนครศรีอยุธยา และนครราชสีมา จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 21 คน

"วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทาง ซึ่งเมื่อเทียบสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยมีปัจจัยจากการที่ประชาชนใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางมากขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ห่วงใยความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน" ม.ล.ปนัดดา กล่าว

ทั้งนี้ได้สั่งการให้ ศปถ.ประสานจังหวัดดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการบริหารจัดการจราจรในเส้นทางสายหลัก เส้นทางเชื่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ เน้นการจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ การแก้ไขปัญหาและปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เปิดสัญญาณไฟวับวาบบนเส้นทางเป็นระยะ คุมเข้มการใช้ความเร็วในการขับรถ และเรียกตรวจประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน ที่สำคัญขอให้จังหวัดรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนและนำมาวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและสภาพปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนงาน กำหนดกรอบการทำงาน และวางแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว พร้อมทั้งร่วมขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนภายใต้วาระ “ประเทศไทยปลอดภัย" (Safety Thailand) ให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยง จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ผู้ประสบอุบัติเหตุบางส่วนเป็นกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องขับรถระยะทางไกล จะมีสาเหตุจากการขับรถเร็ว และความอ่อนล้าจากการเดินทางทำให้มีอาการหลับใน ศปถ.จึงได้ประสานจังหวัดดำเนินมาตรการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ทั้งการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และง่วงหลับใน โดยใช้กลไกการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้นข้น พร้อมรณรงค์ สร้าง จิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนน ควบคู่กับการดำเนินมาตรการทางสังคมและชุมชน รวมถึงมาตรการองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

สำหรับการดำเนินมาตรการดื่มไม่ขับนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในส่วนของรถจักรยานยนต์พบการกระทำความผิด 3,098 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดรถไว้ 555 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 2,013 คน ส่วนรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคลพบการกระทำความผิด 1,633 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 172 คน ยึดรถยนต์ 451 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 970 คน โดยตลอด 10 วันที่ผ่านมา(25 ธ.ค.58-3 ม.ค.59) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 4,052 คัน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 3,032 คัน และรถยนต์ 1,020 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 23,703 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 9,432 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ