โดยอันดับหนึ่ง คือ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 165 คัน รองลงมา คือกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และ 4 จำนวน 151 คัน และ 126 คันตามลำดับ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า รถจักรยานยนต์เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา และมีผู้แจ้งหายไว้ หรือเป็นรถต้องสงสัย ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดจากรถที่ถูกจอดทิ้งไว้ รวมถึงรถที่ผู้ขับขี่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร แต่ไม่มีเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของรถ และรถหนีไฟแนนซ์
"รถที่ถูกยึดมาตรวจสอบ เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจถูกนำไปใช้ในคดีอาญา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบความเกี่ยวข้อง ก็จะถูกส่งคืนให้กับประชาชน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงเครือข่ายทุกสถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลรถที่แจ้งหาย และส่งจดหมายแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืนได้ โดยให้นำบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และทะเบียนรถ มาเป็นหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของ และรับรถคืนได้ที่ลานจอดรถหน้าสนามบุญยจินดา ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่วันที่ 5-9 ม.ค.59 เวลา 9.00-16.00 น.แต่หากพ้นวันที่ 9 ม.ค.ไปแล้ว สามารถขอรับรถได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่ยึดรถไว้
ทั้งนี้ หากตรวจยึดรถครบ 5 ปีแล้ว ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าของมารับคืนได้ เจ้าหน้าที่จะพิจารณานำรถดังกล่าวไปขายทอดตลาดต่อไป เบื้องต้นมีเจ้าของรถทยอยเดินทางมารับรถคืน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และดำเนินการคืนรถไปแล้วกว่า 400 คัน