นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง แนวคิดที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมจัดตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข โดยเชิญคู่ขัดแย้งทุกกลุ่มและพรรคการเมืองเข้าร่วม ว่า ถือเป็นอีกครั้งที่สังคมได้สัมผัสถึงเส้นทางปรองดองในเขาวงกต พายเรือในอ่าง ซื้อเวลา เหมือนกับตอนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาครั้งแรกก็มาจุดประกายความหวังในการปรองดองของคนในชาติ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งได้เห็นว่าไม่มีผลสัมฤทธิ์ปรองดองอะไรเกิดขึ้นจริง นอกจากสัญญาณปรองดองจะดับสนิทแล้ว กลับมีคำถาม มีการแปลงสัญญาณปรองดองเป็นปองร้าย ไล่ล่า บางฝ่ายหรือไม่ ทั้งที่การปรองดองสามารถเกิดขึ้นได้จากพื้นฐานสังคมที่เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน การมีกติกาการอยู่ร่วมกัน ในสังคมประชาธิปไตยตามหลักสากล มีสิทธิ เสรีภาพ ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ยึดหลักนิติธรรม นิติรัฐ ไม่มีการใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน การเคารพสิทธิความเป็นมนุษย์ของกันและกัน ถ้าทำพื้นฐานสังคมให้เป็นอย่างนี้ได้ ก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ เปลืองเวลา มาพายเรือในอ่าง วนเวียนอยู่ในเขาวงกต ดังนั้น ถ้าปรองดองไม่ได้ ก็อย่าปองร้าย ไล่ล่าบางฝ่าย