"ปัจจุบันสถานการณ์ภัยพิบัติทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยส่งเสริมให้มีการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดับ" นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี กรมป้องกันฯ กล่าว
ทั้งนี้ ปภ.ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร ฝ่ายพลเรือน มูลนิธิองค์กรการกุศล เตรียมจัดการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับชาติ พ.ศ.2559 (Disaster Management Exercise 2016: D-MEx 2016) โดยร่วมกันกำหนดกรอบแนวทาง ประเภทภัย สถานการณ์การฝึก ขอบเขตการฝึก ให้สอดคล้องกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 โดยมีกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงกลไกการปฏิบัติการกับองค์กรปฏิบัติการจัดการในภาวะฉุกเฉินทุกระดับ
โดยกำหนดจัดการฝึกใน 3 รูปแบบ ได้แก่ การประชุมเชิงปฏิบัติการ มุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการฝึกได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการประสานการปฏิบัติในการเผชิญเหตุเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน การฝึกปฏิบัติในภาคสนาม โดยจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติขนาดใหญ่ มุ่งทดสอบความสามารถในการเผชิญเหตุของหน่วยปฏิบัติการในระดับพื้นที่ การสนธิกำลังของฝ่ายพลเรือนและหน่วยทหาร พร้อมเชื่อมโยงระบบการติดต่อสื่อสารในภาวะฉุกเฉิน และการฝึกเฉพาะหน้าที่ มุ่ง ทดสอบการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานในกองบัญชาการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ
อธิบดี กรมป้องกันฯ กล่าวว่า การฝึกการป้องกันภัยฯ ระดับชาติ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการจัดการภัย พิบัติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นการทดสอบระบบการประสานการปฏิบัติงาน ส่งผลให้เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติสามารถตอบโต้และจัดการภาวะฉุกเฉินได้ อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการรับมือภัยพิบัติของภาครัฐ