อย่างไรก็ตาม กทม.ได้จัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบและคำขอโทษที่กทม.ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จตามคำสั่งศาล โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) จะแจกแผ่นพับเพื่อขอโทษและชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 4 แห่ง ได้แก่ สถานีพร้อมพงษ์ สถานีรถไฟฟ้าสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีทองหล่อ และสถานีเอกมัย ใน 2 ช่วง เวลา 08.00-09.30 น. และเวลา 16.00-17.30 น.
ด้านนายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวภายหลังการประชุมระหว่าง กทม. และภาคีเครือข่ายฯ ที่จะขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ความร่วมมือ การปฏิบัติการ และหลักประกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้การดำเนินการลุล่วงด้วยดี โดยในด้านความร่วมมือนั้น จะเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบของคณะทำงาน ในการลงพื้นที่สำรวจรายละเอียดของปัญหา การเร่งรัด ติดตาม และแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้เห็นถึงการทำงาน รวมถึงได้รับทราบข้อมูลเท่าเทียมกัน เพื่อความเข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปใช้ในการจัดการบริการสาธารณะทุกกรณี ทั้งการจัดการระบบขนส่งมวลชน และอาคารสถานที่ สำหรับผู้พิการแต่ละประเภท รวมถึงเด็ก หญิงมีครรภ์ และผู้สูงอายุ โดยคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัย และบริการอย่างเท่าเทียม
นายสุภรธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับด้านการปฏิบัติ กทม.และภาคีเครือข่ายจะทำงานร่วมกันในทันที โดยจะเริ่มลงพื้นที่สำรวจข้อมูลบริเวณสถานีบีทีเอสที่สำคัญๆ ถึงปัญหาและข้อติดขัดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป และจะลงพื้นที่ให้ครบทุกสถานีภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้การติดตั้งลิฟท์ตัวแรก ณ สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน และติดตั้งแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนกันยายน 2559 นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกตามข้อเสนอของผู้แทนจากสมาคมต่างๆ เช่น การปรับเสียงแจ้งสถานีปลายทางให้ชัดเจนขึ้น ติดตั้งระบบเสียงบริเวณชานชาลาเพิ่มเติม และสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปในการใช้บริการของคนพิการ รวมถึงเคารพกฎ กติกา มารยาท ในการใช้บริการรถไฟฟ้าร่วมกันตามที่บีทีเอสกำหนด เช่น จัดที่นั่งบริเวณตู้รถไฟฟ้าตู้แรกให้แก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ได้ใช้ร่วมกันในช่วงเวลาเร่งด่วน