พร้อมย้ำว่า เรื่องใดที่เป็นความลับ เกี่ยวข้องกับประชาคมโลก และไม่ทำให้เกิดประโยชน์ก็ต้องระมัดระวังในการสอบถามและเปิดเผยข้อมูล เพราะคนเหล่านี้อาจหลบหนีไปเรื่อยๆและไทยอาจตกอยู่ในกระบวนการขัดแย้งเสียเอง
"กำลังตรวจสอบอยู่นะ เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องลับ เรื่องอะไรที่มีผลกระทบกับประเทศอื่นๆกับประชาคมโลกต้องระวัง บางทีบางเรื่องพูดออกมาไม่เกิดประโยชน์ เพราะคนเหล่านึ้จะหลบหนีไปเรื่อยๆ และเราก็ไปอยู่ในกระบวนการขัดแย้งเสียเอง เราก็ร่วมมือด้านการข่าวการป้องกัน การจัดระบบ และเทคโนโลยี"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ข้อมูลบางอย่างต้องมองในเรื่องของการบริหารเพื่อไม่ให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นข้อมูลความลับจึงมีการจัดลำดับไว้เป็นชั้นความลับ และย้ำว่ารัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงมีแผนดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศอยู่แล้วตามหลักสากล ทั้งเรื่องของบุคลากร เครื่องมือ เทคโนโลยี กฎหมาย และความร่วมมือกับต่างประเทศ แต่ขณะนี้มีปัญหาในเรื่องของการปฎิบัติ เพราะแต่ละฝ่ายไม่ร่วมมือกัน
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยดูได้จากสถิติความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่กับภาครัฐ แต่ในส่วนของผู้ที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ก็คงไม่เข้าร่วมกับภาครัฐ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องส่งเสริมความร่วมมือต้องช่วยกัน และเน้นว่าอย่าให้ความขัดแย้งของคนกลุ่มเล็กสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่
ขณะที่งานด้านการพัฒนาก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ควบคู่กับการพัฒนาด้านการศึกษา ทั้งนี้จากประสบการณ์ในสมัยเป็นผู้บัญชาการทหารบกดูแลงานในพื้นที่และเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ทราบปัญหาในภาพรวมอย่างแท้จริงและสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด