ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ จังหวัด ลำพูน นับว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมากกว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากนิคมฯใช้น้ำจากแม่น้ำกวง ซึ่งรับน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำแม่งัดที่ปัจจุบันเหลือปริมาณน้ำในอ่างไม่ถึง 20% ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำรอง มีเพียง 400,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยความต้องการใช้น้ำของนิคมฯ ดังกล่าว จะใช้น้ำปริมาณสูงกว่า 60,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากจำนวนสถานประกอบการ 75 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น จำนวน 30 ราย
สำหรับการเตรียมความพร้อมรองรับภัยแล้งเฉพาะนิคมฯ ภาคเหนือ มีดังนี้ 1.รักษาปริมาณน้ำสำรองให้เต็มความจุอ่างน้ำดิบที่ 400,000 ล้านลูกบาศก์เมตร 2.สูบน้ำดิบจากแม่กวงได้วันละ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคาดว่าสูบได้ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2559 3.จัดให้มี Forum แลกเปลี่ยนเรียนรู้การประหยัดการใช้น้ำประปาโดยไม่ลดกำลังการผลิตของโรงงานที่ใช้น้ำในระดับ Top Ten เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา 4.เริ่มใช้ระบบ Reuse เพื่อนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วมาเก็บไว้ในอ่างน้ำดิบ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ผลิตเป็นน้ำประปา การพัฒนาน้ำบาดาลสำหรับเป็นแหล่งน้ำสำรอง
นอกจากนั้น กนอ. ได้ประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการสำรวจและขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเห็นควรสำรวจและขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 1 บ่อในเบื้องต้น เพื่อให้ทราบปริมาณน้ำที่ได้ ความคืบหน้าในการขุดเจาะบ่อบาดาล ณ วันที่ 17 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา สามารถเจาะได้ที่ระดับความลึกเป้าหมาย 300 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว ซึ่งจะต้องขยายขนาดเป็น 15 นิ้วก่อนที่จะสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้ต่อไปโดย กนอ.กำหนดเป้าหมายให้สามารถเริ่มสูบน้ำบาดาลมาเก็บไว้ในอ่างน้ำดิบได้ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ กนอ. อยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อน้ำดิบจากบ่อเอกชนในบริเวณใกล้เคียง ปริมาณรวม 300,000 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำดิบให้นิคมฯ ภาคเหนือ ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559