และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (27 ก.พ.) กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ ผอ.ศรชล.เขต 1 ได้สั่งการให้นำอากาศยาน จากหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 แบบลาดตระเวนระยะปานกลางแบบที่ 1 (DO-228) พร้อมร่วมขึ้นบินสำรวจ เพื่อติดตามสภาพเรือ และสำรวจคราบน้ำมัน ก่อนตรวจพบคราบน้ำมันบางๆ เป็นแนวยาวจากท้ายเรือกว้าง 20 เมตร ยาว 550 เมตร เป็นแนวยาวไม่ถึง 1 กิโลเมตร มีสีดำใกล้ตัวเรือ และมันวาวบริเวณรอบๆ คราบสีดำ คาดว่าปริมาณการรั่วไหลน้อยกว่า 20 ตัน
เบื้องต้นสำหรับแนวทางในการเก็บคราบน้ำมัน กรมเจ้าท่าได้ร่วมกับบริษัทของเรือ ได้นำบูมมาล้อมเพื่อป้องกันการกระจายตัวของน้ำมัน ซึ่งในเบื้องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในทะเล สำหรับการกู้เรือเจ้าท่าพัทยาได้เชิญเอเย่นต์เจ้าของเรือเข้ามารับทราบเกี่ยวกับแนวทางการกู้เรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยสถานการณ์ในปัจุบันกรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมสถานการณ์ที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถควบคุมคราบน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว และกำลังดำเนินการวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอเย่นต์ของเรือที่จม ดำเนินการกู้เรือจมต่อไป