โดยวิธีการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งของประชาชนอันดับ 1 คอยติดตามข่าวภัยแล้ง พยากรณ์อากาศ การประกาศแจ้งเตือนต่างๆของภาครัฐ 78.50%, อันดับ 2 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หาวิธีรับมือ วางแผนการใช้น้ำ ใช้น้ำอย่างประหยัด 75.13%, อันดับ 3 หาอุปกรณ์ภาชนะที่มีขนาดใหญ่สำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน 69.95%, อันดับ 4 ช่วยแนะนำ บอกต่อให้ทุกคนตระหนักและให้ความร่วมมือ ปลูกป่า รักษาสิ่งแวดล้อม 62.95% และอันดับ 5 ขุดน้ำบาดาล หาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้เอง 52.59%
ส่วนพฤติกรรมการใช้น้ำของประชาชนในขณะนี้ส่วนใหญ่ 71.76% ใช้น้ำอย่างประหยัดกว่าปกติ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ภัยแล้งยาวนานมากขึ้น ควรใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและเป็นประโยชน์มากที่สุด ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบ้านเมืองและเพื่อตัวเราเองจะได้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างพอเพียง ฯลฯ ส่วนประชาชนที่เหลืออีก 28.24% ยังใช้น้ำเหมือนเดิม เพราะใช้ตามปกติเท่าที่จำเป็น ไม่ได้เป็นคนใช้น้ำสิ้นเปลือง ใช้น้ำประหยัดอยู่แล้ว ฯลฯ
สิ่งที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง อันดับ 1 คือ การแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เช่น การสร้างฝาย เขื่อน ขุดลอกคูคลองต่างๆ ฟื้นฟูป่าและหาแหล่งน้ำเพิ่ม 84.72%, อันดับ 2 มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน 77.98%, อันดับ 3 การบริหารจัดการน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ 71.24%, อันดับ 4 รณรงค์ ประกาศ แจ้งเตือนให้ประชาชนตื่นตัวเรื่องภัยแล้ง เห็นคุณค่าของน้ำและใช้อย่างประหยัด 68.39% และอันดับ 5 ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนลงพื้นที่จัดประชุมเพื่อรับทราบปัญหาและแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน 63.47%
ทั้งนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,158 คน ระหว่างวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา