สาธารณสุข เผยมีรพ.รับผลภัยแล้ง 3 แห่งแต่ยังให้บริการปกติ ตั้งวอร์รูมรับมือ

ข่าวทั่วไป Wednesday March 2, 2016 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้ตั้งวอร์รูมด้านการแพทย์และสาธารณสุขติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิจะสูงสุดในช่วงกลางมีนาคม-เมษายนประมาณ 43-44 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่ามีพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งรวม 12 จังหวัด 47 อำเภอ 217 ตำบล 1,902 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยในส่วนของ สธ.มีโรงพยาบาล (รพ.) ที่ได้รับผลกระทบ 3 แห่ง แต่ยังสามารถให้บริการประชาชนได้ตามปกติ และมีการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดย รพ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้ขุดบ่อน้ำบาดาล และเตรียมจัดทำประปาผิวดิน, รพ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น ประสานขนน้ำจากประปาภูมิภาคหนองเรือ อ.ภูเวียง มาเติมที่ถังประปาของ รพ.ทุกวัน อยู่ระหว่างหาแหล่งน้ำบาดาลและขอขยายขอบเขตการให้บริการน้ำประปา ส่วน รพ.พระทองคำเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ขุดบ่อน้ำบาดาล 2 บ่อ อยู่ระหว่างจัดทำระบบกรองน้ำบาดาลเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สามารถใช้ล้างเครื่องมือแพทย์ได้ และระบบสำรองน้ำไว้ใช้ในโรงพยาบาล

"ได้กำชับให้โรงพยาบาลในพื้นที่ภัยแล้งทุกแห่งเตรียมเก็บกักน้ำสำรองสำหรับให้บริการประชาชนและเจ้าหน้าที่ หากต้องการการสนับสนุนสามารถประสานมายังวอร์รูมได้ทุกวัน" นพ.โสภณ กล่าว

นอกจากนี้ ตนเองได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาในโรงพยาบาล โรงเรียน และสถานบริการสาธารณะอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ และป้องกันโรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าร้อน เช่น โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โรคลมแดดและลมร้อน เด็กจมน้ำ ปัญหาความเครียด และการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่นความสะอาดของตลาดสด ร้านอาหาร การกำจัดขยะ เป็นต้น

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคในช่วงหน้าร้อนที่พบมากที่สุดคือ โรคติดต่อทางน้ำและอาหาร 5 โรค ได้แก่ อุจจาระร่วง อหิวาต์ อาหารเป็นพิษ ไทฟอยด์ และบิด โดยในปี 2558 มีผู้ป่วย 1,232,085 ราย เสียชีวิต 14 ราย จำนวนผู้ป่วยจะเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนไปสูงสุดในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมของทุกปี นอกจากนี้ยังพบโรคลมแดดและลมร้อน ปีที่ผ่านมาพบเสียชีวิต 41 ราย ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่วนมากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีโรคประจำตัว แล้วออกไปทำงาน ทำกิจกรรมกลางแจ้งในขณะอากาศร้อน นอกจากนี้ ยังพบผู้จมน้ำเสียชีวิต 115 ราย ร้อยละ 84 เกิดเหตุในเดือนมีนาคมและเมษายน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีจมน้ำเสียชีวิตสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 66 ส่วนโรคพิษสุนัขบ้า รอบ 5 ปีที่ผ่านมาแนวโน้มคงที่ ในปี 2558 มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เนื่องจากไม่ล้างทำความสะอาดแผล และไม่ฉีดวัคซีนหลังจากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตราย จนเกิดอาการและเสียชีวิตในที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ