กรมป้องกันฯ เร่งบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบปชช.ที่ประสบภัยแล้ง

ข่าวทั่วไป Friday March 4, 2016 13:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กรมป้องกันฯ ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบส่งเข้าพื้นที่การเกษตร รวม 1,602,572 ลูกบาศก์เมตร สูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อส่งน้ำเข้าแหล่งน้ำดิบสนับสนุนการผลิตน้ำประปา จำนวน 6,117,472,000 ลิตร แจกจ่ายน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภครวม 113,968,000 ลิตร และผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายแก่ประชาชน รวม 1,104,000 ลิตร พร้อมสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขุดเจาะบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำตื้น จำนวน 138 บ่อ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง อีกทั้งได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ จำนวน 2,224 โครงการ โดยขุดลอกคูคลอง ปรับปรุงสภาพแหล่งน้ำเดิม และสร้างแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 1,428 โครงการ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จทุกโครงการฯ ตามเป้าหมายจะมีปริมาตรน้ำเก็บกัก 294.58 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 1.10 ล้านครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 3.18 ล้านไร่

นอกจากนี้ยังได้ขับเคลื่อนมาตรการจ้างงานสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยใช้งบประมาณจากเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินวงเงินจังหวัดละ 10 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 28 จังหวัด รวมวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 125,270,264 ล้านบาท ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงใหม่ นครปฐม นครราชสีมา นครสวรรค์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา แพร่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ศรีสะเกษ สกลนคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง และอำนาจเจริญ แยกเป็น จ้างแรงงาน จำนวน 165,749 คน เป่าล้างบ่อบาดาล จำนวน 3,675 บ่อ ฝึกอบรมอาชีพ จำนวน 12,502 ครัวเรือน ขุดลอกแหล่งน้ำ จำนวน 48 โครงการ และซ่อมแซมระบบประปา จำนวน 212 แห่ง เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้แก่ชุมชนที่ประสบภัย ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ

ส่วนการดำเนินโครงการคลองสวยน้ำใส คนไทยมีความสุข ใน 39 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครปฐม ราชบุรี ปราจีนบุรี นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม สกลนคร กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน พัทลุง ชุมพร ยะลา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เลย พะเยา ชัยนาท ลพบุรี อ่างทอง ชลบุรี ตราด ตรัง พังงา กระบี่ และระนอง รวม 385 โครงการ โดยสามารถกำจัดผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ จำนวนกว่า 727,747 ตัน ในพื้นที่ 3,596.9 ล้านไร่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของน้ำ การกระจายน้ำและการระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดที่มีพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก จำนวน 1,173 บ่อ

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) รวม 12 จังหวัด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค สูบน้ำดิบส่งเข้าผลิตน้ำประปาและพื้นที่การเกษตร ขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 138 บ่อ และดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำแล้วเสร็จ 1,428 โครงการ อีกทั้งขับเคลื่อนมาตรการจ้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชนใน 28 จังหวัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งให้มีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

โดยจังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 12 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 47 อำเภอ 217 ตำบล 1,902 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 2.54 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย และนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม และบุรีรัมย์ ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี และเพชรบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ