เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. เกิดเหตุเครื่องยนต์ของเรือโดยสารในคลองแสนแสบระเบิด ระหว่างเรือลอยเทียบท่า
เพื่อรับส่งผู้โดยสารบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว โดย
ยังคงมีผู้รักษาอยู่โรงพยาบาลไม่มากนัก ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดปัญหาจากระบบเชื้อเพลิง
ของเรือโดยสาร ขณะที่ผู้บริหารบริษัทเจ้าของเรือระบุจะเลิกการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับเรือโดยสารใน
คลองแสนแสบ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
นายเชาวลิต เมทยประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือโดยสารดังกล่าว
กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างเรือโดยสารกำลังรับส่งผู้โดยสารบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ปรากฎว่าเครื่องยนต์บริเวณกลางลำ
เรือเกิดระเบิดส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่มีผู้ตกน้ำบางส่วน และได้
รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้ในเวลาต่อมา
สำหรับสภาพเรือโดยสารที่เกิดระเบิดนั้นไม่ได้จมลงไปในน้ำ แต่สภาพห้องเครื่องเรือได้รับความเสียหาย หลังคาเรือฉีก
ขาด โดยอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าจะเกิดปัญหาจากระบบเชื้อเพลิงของเรือโดยสาร
นายเชาวลิต กล่าวอีกว่า เรือโดยสารของบริษัทใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งคุณสมบัติของ LNG จะเป็นก๊าซเบา ติด
ไฟยาก ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ายังต้องรอผลการตรวจสอบถึงสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ทางบริษัทก็จะยกเลิกการใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเรือโดยสารที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 25 ลำ และจะหันมาใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อ
เพลิงทดแทนไปก่อนจนกว่าจะได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยต่อไป
ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บในขณะนี้เท่าที่รับทราบพบว่ามีผู้ที่ยังคงรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประมาณ 3 ราย และอุบัติเหตุครั้งนี้ยัง
ไม่พบรายงานผู้สูญหายแต่อย่างใด
"อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุ ที่จะทำคือหยุดใช้ก๊าซฯไปก่อนทั้งหมดเลย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เรามี
ประมาณ 25 ลำ ใช้ก๊าซ LNG หมด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา ก็จะหันมาใช้ดีเซลแทน เราก็มีการบำรุงรักษาทุกปีตลอดเวลา ตอนนี้
กองพิสูจน์หลักฐานมาดูกันเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป"นายเชาวลิต กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์
ด้านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บจากเหตุเรือโดยสารระเบิดล่าสุดพบว่ามีผู้บาดเจ็บเข้ารับการ
รักษาที่ห้องฉุกเฉิน จำนวน 53 ราย ในโรงพยาบาล 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพ 8 ราย โรงพยาบาลเพชรเวช
15 ราย โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา 16 ราย, โรงพยาบาลพระมงกุฎ 7 ราย และโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 จำนวน 7 ราย