เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. เกิดเหตุเครื่องยนต์ของเรือโดยสารในคลองแสนแสบระเบิด ระหว่างเรือลอยเทียบท่า
เพื่อรับส่งผู้โดยสารบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว โดย
ยังคงมีผู้รักษาอยู่โรงพยาบาลไม่มากนัก ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดปัญหาจากระบบเชื้อเพลิง
ของเรือโดยสาร ขณะที่โฆษกรัฐบาล ยืนยันเหตุเรือโดยสารระเบิดเบื้องต้นพบเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่วินาศกรรม
พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้น
สันนิษฐานว่าสาเหตุที่เรือโดยสารระเบิด น่าจะเกิดจากการระเบิดของถังก๊าซเชื้อเพลิงภายในเรือ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีควันและ
กลิ่นก๊าซที่ท้ายเรือบริเวณที่ตั้งถังก๊าซ รวมทั้งตรวจสอบไม่พบสะเก็ดระเบิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้
ทราบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป โดยยืนยันว่าไม่ใช่การก่อวินาศกรรมจากผู้ไม่ประสงค์ดีแต่อย่างใด
“ขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและหลักฐานต่างๆแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บราว 50
ราย ผู้บริหารของกระทรวงคมนาคม ได้ไปติดตามเยี่ยมอาการตามโรงพยาบาลต่างๆแล้ว”พลตรีสรรเสริญ กล่าว
พลตรีสรรเสริญ กล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้กำชับ
ให้หน่วยงานที่กำกับดูแลงานด้านการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสาร เรือ รถไฟ เครื่องบิน มีมาตรการเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับ
ความปลอดภัยของอุปกรณ์ภายในยานพาหนะ โดยตรวจสอบให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้และไม่เกิดอันตราย ทั้งส่วนที่เป็นของรัฐและ
เอกชนร่วมบริการ
“ท่านนายกฯ ยังมีความห่วงใยผู้บาดเจ็บ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปดูแลช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวก
ตามภารกิจที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิดต่อไป”พลตรีสรรเสริญ กล่าว
ขณะที่นายเชาวลิต เมทยประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือโดยสารดังกล่าว
กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างเรือโดยสารกำลังรับส่งผู้โดยสารบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ปรากฎว่าเครื่องยนต์บริเวณกลางลำ
เรือเกิดระเบิดส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่มีผู้ตกน้ำบางส่วน และได้
รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้ในเวลาต่อมา
สำหรับสภาพเรือโดยสารที่เกิดระเบิดนั้นไม่ได้จมลงไปในน้ำ แต่สภาพห้องเครื่องเรือได้รับความเสียหาย หลังคาเรือฉีก
ขาด โดยอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าจะเกิดปัญหาจากระบบเชื้อเพลิงของเรือโดยสาร
นายเชาวลิต กล่าวอีกว่า เรือโดยสารของบริษัทใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งคุณสมบัติของ LNG จะเป็นก๊าซเบา ติด
ไฟยาก ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ายังต้องรอผลการตรวจสอบถึงสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ทางบริษัทก็จะยกเลิกการใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเรือโดยสารที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 25 ลำ และจะหันมาใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อ
เพลิงทดแทนไปก่อนจนกว่าจะได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยต่อไป
ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บในขณะนี้เท่าที่รับทราบพบว่ามีผู้ที่ยังคงรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประมาณ 3 ราย และอุบัติเหตุครั้งนี้ยัง
ไม่พบรายงานผู้สูญหายแต่อย่างใด
"อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุ ที่จะทำคือหยุดใช้ก๊าซฯไปก่อนทั้งหมดเลย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เรามี
ประมาณ 25 ลำ ใช้ก๊าซ LNG หมด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา ก็จะหันมาใช้ดีเซลแทน เราก็มีการบำรุงรักษาทุกปีตลอดเวลา ตอนนี้
กองพิสูจน์หลักฐานมาดูกันเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป"นายเชาวลิต กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์
ด้านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บจากเหตุเรือโดยสารระเบิดล่าสุดพบว่ามีผู้บาดเจ็บเข้ารับการ
รักษาที่ห้องฉุกเฉิน จำนวน 53 ราย ในโรงพยาบาล 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพ 8 ราย โรงพยาบาลเพชรเวช
15 ราย โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา 16 ราย, โรงพยาบาลพระมงกุฎ 7 ราย และโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 จำนวน 7 ราย