ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตั้งแต่ปี 54 เป็นต้นมา พบว่าพื้นที่ลำคลองในเขตกกรุงเทพมีการบุกรุก 1,161 คลอง และส่งผลให้พื้นที่ที่มีปัญหาส่งผลกระทบการระบายน้ำ ได้แก่ บริเวณริมคลองลาดพร้าว บริเวณคลองเปรมประชากร ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มนี้ เพื่อจัดระเบียบและลดความเหลื่อมล้ำ
โดยการดำเนินงานในปี พ.ศ.2559 ให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช.นำเงินที่ได้รับการจัดสรรจากโครงการบ้านมั่นคงมาใช้จ่ายในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง และการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใช้จากเงินทุนหมุนเวียนของ พอช.ตามความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งสนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและเสียโอกาสเฉลี่ยครัวเรือนละ 80,000 บาท เนื่องจากนโยบายการจัดระเบียบชุมชนริมคลองเป็นนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนที่ต้องเห็นรูปธรรมการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนภายในระยะเวลาจำกัดและชุมชนมีข้อจำกัดในการเตรียมความพร้อมเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งต้องรับภาระ จึงจำเป็นต้องมีการช่วยเหลือเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ
"ที่ประชุมครม. อนุมัติโครงการนี้ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและจัดระเบียบสังคมควบคู่ไปด้วย" โฆษกฯ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้ พม.ดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มคนไร้บ้าน 2 ปี (พ.ศ.2559-2560) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โดยจะมีการสร้างศูนย์คนไร้บ้านรองรับให้บริการใน 3 เมืองหลัก คือ กรุงเทพฯ ขอนแก่น และเชียงใหม่
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ตัวเลขคนไร้บ้านมีประมาณ 1,395 คน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 1,093 คน ขณะที่ศูนย์พักคนไร้บ้านที่มีที่บางกอกน้อยและตลิ่งชัน สามารถรองรับได้ราว 80 คนเท่านั้น ส่วนที่เชียงใหม่มีคนไร้บ้านประมาณ 166 คนแต่ศูนย์ฯที่มีรองรับได้ 15-16 คน และที่ขอนแก่นมีคนไร้บ้าน 136 คน ดังนั้นที่ประชุมครม. จึงอนุมัติโครงการนี้เพื่อดำเนินการสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัย