โดยในส่วนของสินเชื่อนั้นได้เพิ่มเติมวงเงินสินเชื่ออีก 500 ล้านบาท และมีการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ เช่น เดิมผู้กู้ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี แต่ของใหม่จะผ่อนปรนให้เป็นอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี, เดิมคิดอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีคงที่ แต่ของใหม่จะคิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ส่วนปีที่ 2-7 คิดดอกเบี้ย 4% ต่อปี, เดิมระยะเวลาการปลอดชำระหนี้เงินต้น กำหนดไม่เกิน 6 เดือน ของใหม่จะยืดเวลาเป็นไม่เกิน 12 เดือน เป็นต้น
ส่วนกรณีการขอเพิ่มอัตรากำลังอีก 221 คนนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มองว่าการจัดจ้างหรือนำข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายมาบูรณาการก็จะยินยอมให้ได้ แต่หากจะเปิดอัตราใหม่คงต้องหารือกันหลายฝ่าย ดังนั้นจึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปพิจารณาในรายละเอียดว่าควรจะเพิ่มกี่อัตรา โดยให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวมและนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายใน 2 สัปดาห์ เพราะถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข
"คณะรัฐมนตรีอนุมัติเฉพาะในเรื่องของการเพิ่มวงเงินสินเชื่อ ซึ่งเดิมในโครงการประมงไทยก้าวไกลสู่สากล เคยปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 1,000 ล้านบาท และหมดไปแล้ววันนี้จึงมาขอเพิ่มวงเงินสินเชื่ออีก 500 ล้านบาท พร้อมขอผ่อนปรนหลักเกณฑ์เดิมให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ให้คนสามารถกู้ได้ง่ายขึ้น แต่การขอเพิ่มอัตรากำลังนั้น เห็นว่ามีผลผูกพันต่องบประมาณจำนวนมาก จึงให้ ก.พ.ไปหาข้อยุติ" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว