โดยที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษมช่องทางขาขึ้น เป็นถนนที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างซ่อมบำรุง ใกล้กับทางเบี่ยงมืดสนิทไม่มีไฟส่องสว่าง พบรถพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-1122 ภูเก็ต ทะเบียนพ่วง 70-1188 ภูเก็ต สภาพด้านหน้าและหลังคาเก๋งยุบราบ เครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ หลุดกระจายไปทั่ว และมีแผ่นไม้กระดานอัดจำนวนมากทับอยู่บนหัวรถและหล่นกระจายเกลื่อนอยู่บนถนน มีคนขับบาดเจ็บสาหัสถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ภายใน ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ ภัคดี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 2 ต.หินกอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ต้องช่วยปั้มหัวใจใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงดึงร่างออกมาได้แล้วพาส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ที่เกิดเหตุด้านหน้ารถเทรลเลอร์ 22 ล้อ มีรถทัวร์ 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถทัวร์ อีซูซุ สีขาว-ม่วง ทะเบียน 30-0567 นครปฐม ที่กระจกหลังเขียนว่า “มงคลทัวร์ คุณเผือก" บริเวณท้ายและหน้ายุบ กระจกแตกละเอียด เครื่องพังเสียหาย อีกคันเป็นรถทัวร์สแกนเนีย สีขาว-ม่วง ทะเบียน 30-0720 นครปฐม ที่กระจกข้างรถเขียนว่า “พรพิทยา" บริเวณท้ายยุบ กระจกแตก เครื่องพัง มีผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์ทั้ง 2 คันได้รับบาดเจ็บรวม 14 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าแซะ 8 คน โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ 6 คน ในจำนวนนั้นมีสาหัส 3 คน แต่แพทย์ได้ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งผู้โดยสารรถทัวร์ทั้ง 2 คัน มาด้วยกันเป็น ส.อบต.และเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รวมทั้งหมด 80 คน กำลังเดินทางกลับจากทัศนะศึกษาดูงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี
นอกจากนั้น ยังมีรถเก๋ง โตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กถ 9116 กรุงเทพมหานคร ถูกเฉี่ยวที่ท้ายเสียหายเล็กน้อย และรถกระบะ โตโยต้าสีขาว ตอนเดียว ทะเบียน ผร 9772 ชลบุรี สภาพหน้ารถถูกชนอัดติดกับท้ายรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ รถทั้ง 2 คัน คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ถนนช่วงเกิดเหตุช่องทางขาขึ้นอยู่ระหว่างการก่อสร้างและใกล้กับทางเบี่ยงให้รถทุกชนิดไปใช้ทางร่วมกัน ขณะเกิดเหตุรถทั้งหมดได้ชะลอความเร็วและจอดติดอยู่จำนวนหลายคัน เพื่อเข้าไปใช้ทางเบี่ยงร่วมกันกับรถที่สวนทางมาและสองข้างทางมืดสนิท ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้รถพ่วงเทรลเลอร์ 22ล้อ ที่บรรทุกแผ่นไม้กระดานอัดจำนวนมาก หนักหลายตันมาจากโรงงานใน จ.พังงา เพื่อไปส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ ขับมาด้วยความเร็ว
ซึ่งอาจจะมองไม่เห็นรถที่ชะลอจอดติดกันเป็นแถวยาว เพื่อเปลี่ยนเลนไปใช้ทางเบี่ยงทำให้เบรกไม่ทัน จนเฉี่ยวท้ายรถเก๋งโตโยต้า แล้วหักหลบพุ่งไปชนท้ายรถทัวร์ที่จอดอยู่ด้านหน้า และรถทัวร์คันดังกล่าวได้ไถลไปชนท้ายรถทัวร์อีกคัน ขณะที่รถกระบะโตโยต้าที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทันพุ่งชนท้ายรถพ่วงเทรลเลอร์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่
จากเหตุการณ์ดังกล่าวรถเทรลเลอร์ที่เสียหายขวางอยู่บนถนนและแผ่นไม้กระดานอัดจำนวนมากหนักเกือบ 30 ตัน ได้หล่นอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเคลียร์เส้นทางนานกว่า 5 ชั่วโมง ทำให้รถทุกชนิดทั้งขาขึ้นขาล่องไปใช้ทางเบี่ยงร่วมกันในช่องทางขาล่องใต้ ส่งผลให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีรถติดสะสมยาวเหยียดกว่า 10 กิโลเมตร