นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ภัยแล้ง ครั้งที่ 11/2559 กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นพิเศษ ได้แก่ บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ อาจต้องนำน้ำสำรองที่อยู่ก้นเขื่อนมาใช้งาน จึงได้ประสานจังหวัดเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้รับทราบสถานการณ์น้ำและความจำเป็นในการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงต้องขอความร่วมมือเกษตรกรงดเว้นการทำนาปรังรอบที่ 2 โดยเฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหาย และให้มีน้ำสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่กำหนดไว้อย่างเพียงพอจึงถึงช่วงฤดูฝน โดยให้ปรับเปลี่ยนมาเพาะปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและความต้องการของตลาด
สำหรับการเล่นน้ำในช่วงเทศกาสงกรานต์ ได้รณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ โดยเล่นน้ำอย่างประหยัด รู้คุณค่า มีจิตสำนึกบนพื้นฐานความพอเพียง เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามวิถีไทย
นายพรพจน์ กล่าวต่อว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ วางแผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของประชาชนตลอดช่วงฤดูแล้ง พร้อมควบคุมคุณภาพและปริมาณน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำของประชาชนในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กรณีพื้นที่ใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ให้จัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำสะอาดเข้าไปในพื้นที่ พร้อมจัดเตรียมภาชนะกักเก็บน้ำกลาง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคใช้อย่างเพียงพอ และประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งในครั้งนี้ไปได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน
ขณะนี้ มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 15 จังหวัด 60 อำเภอ 278 ตำบล 2,369 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 3.16 ของหมู่บ้านทั่วประเทศ