นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้ให้สำนักงาน ธ.ก.ส.ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศที่เกิดภัยแล้ง และมีประชาชนขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและเพื่อการเกษตร ไปหามาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ตามความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ โดยได้นำเงินจากกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย วงเงิน 75 ล้านบาท ใช้สำหรับจัดหาน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัย จัดรถน้ำเคลื่อนที่ให้บริการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ร่วมกับส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหาภาชนะบรรจุน้ำ ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล ซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ่อบาดาลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และขุดลอกบ่อน้ำสาธารณะที่ไว้ใช้สำหรับเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
สำหรับการดำเนินงานของกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติ ปี 2558/2559 ใช้งบประมาณบรรเทาความเดือดร้อนจำนวน 355 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 66 ล้านบาท โดยได้รับอนุมัติงบประมาณป้องกันภัยแล้ง เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวน 61 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 33 ล้านบาท สามารถสร้างฝายได้แล้วจำนวน 407 ฝาย และกองทุนฯ ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 75 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 5 ล้านบาท สำหรับขุดเจาะบ่อบาดาล 18 บ่อ และซื้อถังบรรจุน้ำสะอาดจำนวน 625 ใบ มีประชาชนได้รับประโยชน์แล้วทั้งสิ้น 68,944 ครัวเรือน
อย่างไรก็ดี วันนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมมือกับจังหวัดมหาสารคาม และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม ทำพิธีมอบถังน้ำความจุ 2,000 ลิตร จำนวน 60 ถัง ให้กับหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามที่ประกาศเขตภัยแล้งจำนวน 27 ตำบล จาก 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.เชียงยืน อ.โกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัยและอ.ชื่นชม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นตัวแทนประชาชนรับมอบ
"เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม 4 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง ธ.ก.ส.ตระหนักถึงความเดือดร้อนดังกล่าวและเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น จึงได้ร่วมมือกับจังหวัดมหาสารคามมอบถังน้ำให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ภัยแล้งได้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นมีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และ ธ.ก.ส.จะได้หามาตรการระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรต่อไปในอนาคต" นายลักษณ์ กล่าว