รัฐดีเดย์ 1 เม.ย.เปิด"ร้านประชารัฐสุขใจ"ทั่วปท. หวังสร้างรายได้ชุมชนปีละ 50 ลบ.

ข่าวทั่วไป Sunday March 27, 2016 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเปิด "ร้านประชารัฐสุขใจ Shop" ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. จังหวัดละ 2 แห่ง รวม 148 แห่งทั่วประเทศ 1 เม.ย.นี้ เพื่อเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP และให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวในท้องถิ่น โดยคัดเลือกและพัฒนาคุณภาพสินค้าและบรรจุภัณฑ์ก่อนนำขึ้นชั้นวางจำหน่ายทุกร้านค้า

"รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาท ระยะ 3 ปี (2559 – 2561) เพื่อผลักดันโครงการประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชน หรือร้านประชารัฐสุขใจ เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ผู้ผลิตสินค้าโอท็อปและวิสาหกิจชุมชน โดยจะคัดสรรสินค้าโอท็อปเด่นของแต่ละจังหวัดในระดับเกรดเอ และบี มาวางจำหน่าย พร้อมทั้งจะพัฒนาคุณภาพและรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าโอท็อปทั่วไปให้มีมาตรฐานเทียบเท่าเกรดเอและบี เพื่อวางจำหน่ายต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมระบุว่า เบื้องต้นรัฐบาลวางเป้าหมายว่าจะมีสินค้าวางจำหน่ายปีละ 7,400 – 30,000 รายการ มีสินค้าที่จะได้รับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ปีละ 500 รายการ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนทั่วประเทศปีละ 50 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานหรือประชาชนร่วมผลิตสินค้าปีละ 1.48 แสนราย โดยหลังจากดำเนินการไปแล้ว 3 ปี ร้านประชารัฐสุขใจแต่ละร้านจะสามารถดูแลตนเองได้"

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการร้านค้าได้กำหนดไว้ 3 รูปแบบ คือ ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายโอท็อปของจังหวัด ขับเคลื่อนโดย สนง.พัฒนาชุมชนของจังหวัดประสานกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้า หรือขับเคลื่อนโดยอาศัยผู้ขาย (Trader) อาชีพ ทำหน้าที่รวบรวมและจัดส่งสินค้าเข้าร้าน โดยช่วงเดือน มี.ค.59 ได้ดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ และคัดเลือกสินค้าเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจากภายใน โดยเริ่มจากระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และจังหวัด ซึ่งโครงการร้านประชารัฐสุขใจ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากระดับชุมชนสู่ระดับประเทศ และเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอาเซียนและประชาคมโลก

โดยได้เน้นย้ำให้ทุกร้านค้า รักษามาตรฐานของสินค้าและบริการ เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางไปมาในประเทศอย่างต่อเนื่อง และหากประเมินผลแล้วเป็นที่น่าพอใจ ขอให้มีการขยายจำนวนร้านค้าในปั๊ม ปตท.เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นมีโอกาสเข้าถึงช่องทางการกระจายสินค้าได้มากขึ้น รวมทั้งพัฒนาต่อไปถึงการตั้งร้านค้าในปั๊มน้ำมันที่ ปตท.ไปลงทุนในต่างประเทศ ช่วยเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตสินค้าโอท็อป และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยได้อีกช่องทางหนึ่ง

สำหรับโครงการประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชน ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บมจ. ปตท. (PTT), กรมการพัฒนาชุมชน, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ