วันนี้ ( 10 เม.ย.) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 29 มีนาคม 2559 จำนวน 2 ฉบับ ดังนี้ 1. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งเป็นพยานที่สืบพยานก่อนการฟ้องคดี หรือระหว่างการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ 2. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2 )
โดยสาระสำคัญของประกาศฯ คือ การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวก อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ คือคนต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายและพยานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 1 ปี และหากมีความจำเป็นตามข้อเท็จจริงแห่งคดี สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 1 ปี โดยให้จัดทำทะเบียนประวัติ และบัตรประจำตัวสำหรับคนไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ตามเงื่อนไขและวิธีการที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนด
นอกจากนี้ ในระหว่างการดำเนินคดี ให้หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การดูแล คุ้มครอง รวมทั้งสิทธิประโยชน์แก่ผู้เสียหาย และพยานในคดีค้ามนุษย์ อาทิเช่น การขออนุญาตทำงาน การบำบัดฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เป็นต้น
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้เร่งดำเนินการมาอย่างเข้มข้นทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม การดำเนินคดี และการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยยึดหลักการปฏิบัติงานตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล คำนึงถึงหลักสิทธิ