พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน เพื่อแก้ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก เนื่องจากประเทศไทยถูกต่างชาติมองอยู่ในข่ายที่มีปัญหาการค้ามนุษย์ จึงต้องแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลังให้สอดคล้องกับอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ โดยกำหนดบทลงโทษเพิ่มขึ้นจากเดิม
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ 1.การกำหนดประเภทของงานที่อันตรายต่อเด็ก 2.การกำหนดสถานที่ต้องห้ามใช้แรงงานเด็ก และ 3.การกำหนดอายุขั้นต่ำของแรงงานเด็ก
ทั้งนี้ มีการปรับบทลงโทษมากขึ้น เช่น การใช้แรงงานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานเกี่ยวกับงานหลอม งานเป่า งานหล่อ งานปั้ม งานรีดโลหะ ซึ่งจะมีผลต่อสภาพร่างกาย เดิมกำหนดบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งจำทั้งปรับ ให้เพิ่มเป็นโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่น้อยกว่า 4 แสนบาท แต่ไม่เกิน 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หรือกรณีที่เกิดเหตุให้ลูกจ้างถึงแก่อันตรายและเสียชีวิต เดิมกำหนดบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับตั้งแต่ 8 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็กที่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและหลักกติกาสากลได้มีความกลัว เกรงต่อกฎหมาย เพราะอัตราโทษของเดิมมันเบาไป ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของการใช้แรงงานของสากล"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว