นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตรวจการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 10 -13 เมษายน 2559 โดยดำเนินการตรวจในพื้นที่เกาะช้าง พื้นที่อ.เมือง จ.ตราด และจ.นครนายก ภาคเหนือ ดำเนินการที่จ.แพร่ พะเยา และเชียงใหม่ ภาคอีสาน ดำเนินการที่จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ ภาคใต้ ที่อ.ไชยา และอ.เมืองจ.สุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 527 ราย พบการกระทำผิดและดำเนินคดี 162 ราย โดยฐานความผิดที่พบ 3 อันดับแรกคือ โฆษณาสื่อสารการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวันไม่เกิน 5 หมื่นบาทจนกว่าจะหยุดโฆษณา จำนวน 47 ราย รองลงมาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม โทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวน 40 ราย ที่สวนสาธารณะทั้ง 7 รายและบนทาง 33 ราย และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาต้องห้าม โทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวน 39 ราย
นอกจากนี้ ยังพบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะหรือวิธีการต้องห้าม เช่น ลดราคา แลก แจก แถม เป็นต้น โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวน 25 ราย ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม โทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวน 7 ราย โดยพบจำหน่ายบนเรือโดยสารสาธารณะ 1 ราย และสวนสาธารณะ 6 ราย ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวน 3 ราย และยังพบความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ของสรรพสามิต ฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มี/ไม่แสดงใบอนุญาตขาย โทษปรับไม่เกิน 500 บาท สำหรับการขายสุราในประเทศ หรือ 2,000 บาท สำหรับการขายสุรานำเข้า จำนวน 8 ราย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้มงวดดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดช่วง 7 วันอันตราย เพื่อลดปัจจัยที่นำมาสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากจราจรให้ได้มากที่สุด