เกิดเหตุคล้ายระเบิดขนาดเล็กในสถานีรถไฟหัวลำโพงทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 รายช่วงเที่ยงวันนี้ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สั่งเช็คกล้องวงจรปิด แม้เบื้องต้นพบเป็นอุบัติเหตุขวดเครื่องดื่มระเบิดตัวจากการทิ้งก้นบุหรี่
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากการสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่ามีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 28 ปี 2 คนเป็นญาติกัน เดินทางมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมมารดา เพื่อไปยังที่ จ.ชุมพร ระหว่างที่รถไฟพักที่สถานีหัวลำโพงจึงออกมาสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่ลงในขวดบรรจุเครื่องดื่มชูกำลัง จากนั้นเกิดระเบิดขึ้น โดยชายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากสะเก็ดแก้ว ซึ่งได้ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นไปตามคำบอกเล่าของชายวัยรุ่นหรือไม่ หรือเป็นการพกระเบิดขวดมา หรือมีระเบิดขวดวางไว้อยู่แล้ว คงต้องรอดูกล้องวงจรปิดต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวชายคนหนึ่งวัย 22 ปีที่นำกระเป๋ามาวางไว้ที่หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพงมาสอบสวน เบื้องต้นแจ้งว่าได้เก็บกระเป๋ามาจากถังขยะ แล้วได้มาคัดแยกของในจุดที่เกิดระเบิด และได้ของที่ต้องการแล้วจึงได้ไปทำธุระอื่นต่อ ต่อมาได้มีชาย 2 คนมานั่งสูบบุหรี่ระหว่างรอเดินทางต่อและดับบุหรี่ภายในขวดที่ทิ้งไว้ จึงได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
หลังจากนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายบุญเกิดให้การว่าตั้งใจจะนำขวดไปขาย แต่ลืมไปจึงไปธุระที่อื่น ซึ่งภายในขวดมีดินดำน้ำหนักประมาณ 10 กรัมบรรจุอยู่ เมื่อผู้ประสบเหตุมานั่งสูบบุหรี่ในบริเวณดังกล่าวได้หยิบขวดขึ้นมาเปิดฝาเพื่อทิ้งก้นบุหรี่ ประกายไฟจึงทำปฏิกิริยากับดินดำด้านในจึงเกิดการระเบิดขึ้นทำให้ผู้ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บจากเศษแก้วที่แตกออกมาจากขวด
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุและเป็นความประมาทไม่ได้เป็นเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ส่วนที่มาของดินดำที่มีลักษณะเดียวกับส่วนประกอบในบั้งไฟก็มีความเป็นไปได้ในหลายสาเหตุ ซึ่งจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป