นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 13 - 16 มิถุนายน 2559 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรง ทำให้พื้นที่รับลมมรสุมบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกและภาคตะวันออก มีฝนตกชุกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 13 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ท่อและทางระบายน้ำในเขตเมืองไม่ให้มีสิ่งอุดตัน สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งก่อสร้าง ในเขตชุมชนและป้ายโฆษณาในพื้นที่สาธารณะอยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันการล้มทับ ก่อให้เกิดอันตราย
กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที หากมีความจำเป็นให้พิจารณาสั่งการอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยในทันที พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับการอพยพของประชาชน สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3 – 4 วันนี้